เขาไม่รัก แต่เรารักเขา 15 ที่เที่ยวเขาๆ ไปเหอะทะเลหมอกยังอยู่

Traveloka TH
12 Jan 2019 - 5 min read

ปีใหม่หยุดกันอิ่มไหม ได้ไปเที่ยวที่ไหนกันบ้างหรือเปล่าช่วงวัยหยุดยาว ถ้าใครยังไม่ได้ไปก็ไปตอนนี้ได้เลย ที่เที่ยวต่างๆ คนไม่เยอะแล้ว ที่สำคัญตอนนี้ก็ยังเพลินกับลมหนาว (เบาๆ ) ได้อยู่ โดยเฉพาะที่เขาๆ ตอนนี้อากาศยังดีมาก มีทะเลหมอกให้เห็นอยู่ ปักหมุด Check In ซักเขาก่อนที่ทะเลหมอกจะหายไปเร็วๆ รีบจองที่พักเลย ไม่ว่าจะเที่ยวที่ไหน Traveloka ก็หาที่พักให้คุณได้ง่าย ๆ ในราคาดีมีโปรโมชั่นแค่เพียง คลิกตรงนี้

จองตั๋วเครื่องบินและที่พักกับ Traveloka

15 ที่เที่ยวเขา

1. ภูชี้เพ้อ จ.แม่ฮ่องสอน

จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกในแม่ฮ่องสอนสุด Unseen ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมากนัก ซึ่งสามารถไปฟินกันต่อกับวิวทุ่งดอกบัวตองสีเหลืองอร่ามได้ไม่ยาก เพราะอยู่ใกล้กับจุดชมวิวทุ่งดอยบัวตองดอยแม่อูคอ แต่ต้องใช้ความอุตสาหะมากหน่อยกว่าจะได้มาซึ่งทัศนียภาพของทะเลหมอกสุดสวย เนื่องจากไม่มีที่พักแรมบนภูชี้เพ้อ และต้องใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อร่วมกับการเดินเท้าอีกกว่า 1 กิโลเมตรจึงจะถึงที่หมายปลายทาง แต่หากได้ขึ้นภูไปสัมผัสแล้วรับรองว่าคุ้มค่าความพยายามที่แลกมาแน่นอน

จองที่พักแม่ฮ่องสอนราคาพิเศษกับ Traveloka คลิกที่นี่

2. ภูชี้ดาว จ.เชียงราย

ยอดเขาที่ปลายยอดชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า อันเป็นที่มาของชื่อภูชี้ดาว อีกหนึ่งจุดชมวิวทะเลหมอกของจังหวัดเชียงราย ที่นอกจะสามารถชมทะเลหมอกได้แบบ 360 องศารอบทิศทางแล้ว ยังได้วิวของภูชี้ฟ้า และแม่น้ำโขงไปพร้อม ๆ กันในคราวเดียวอีกด้วย จัดเป็น Rare Item ของทะเลหมอกเมืองเหนืออีกแห่งหนึ่ง ที่เข้าถึงได้ไม่ง่ายนักให้ควรค่าแก่ความ Rare ของที่นี่ เพราะต้องใช้รถบริการของท้องถิ่นแบบ 4x4 เพียงอย่างเดียว

3. ภูชีฟ้า จ. เชียงราย

จุดชมวิวทะเลหมอกยอดฮิตติดอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย เหนือยอดเขาที่สูงที่สุดของเมือกเขาดอยผาหม่น ริมพรมแดนไทย – ลาว ซึ่งมีอากาศหนาวเย็นตลอดปี และยังมีทะเลหมอกยาวนานตั้งแต่หน้าฝนไปจนสุดหน้าหนาวเลยทีเดียว ที่สำคัญอยู่ทะเลหมอกที่ภูชีฟ้ายังกินผืนที่แผ่กว้างสุดสายตาครอบคลุมทั่วบริเวณ เหลือให้เห็นเพียงสีขาวโพลนของทะเลหมอก และยอดเขาน้อยใหญ่เพียงเล็กน้อยที่ยื่นโพล่เหนือทุ่งทะเลหมอกออกมา คนรักเขาและสายหมอก บอกเลยว่าห้ามพลาดต้อง Check In ที่ภูชีฟ้าให้ได้สักครั้งในชีวิต

จองที่พักเชียงรายราคาพิเศษกับ Traveloka คลิกที่นี่

4. ภูทับเบิก จ. เพชรบูรณ์

ยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ และเป็นที่เที่ยวเขาที่มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ที่สำคัญที่สุด คือมีทะเลหมอกให้ชมกันเกือบตลอดทั้งปีด้วย แถมทีเด็ดทะเลหมอกนอกจากจะอยู่ในช่วงหน้าหนาวที่ทะเลหมอกหนาสีขาวโพลนลอยเต็มทั่วขุนเขาทุกทิศทางในยามเช้าแล้ว หน้าฝนที่ภูทับเบิกก็สุด Amazing ด้วยไปหมอกอ่อน ๆ ของสายฝนที่มีให้ชมตลอดทั้งวัน พร้อมฉากหลังเป็นเทือกเขาสูงสีเขียวชอุ่มที่วางตัวสลับซับซ้อน ที่เหมาะกับคนรักขุนเขาเป็นที่สุด

จองที่พักเพชรบูรณ์ราคาพิเศษกับ Traveloka คลิกที่นี่

5. ภูลังกา จ.พะเยา

ที่เที่ยวเขาชมวิวทะเลหมอกของคนรักธรรมชาติขาลุย เพราะต้องอาศัยรถขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือ 4WD เท่านั้นในการเดินทางขึ้นสู่ยอดเขา โดยมีไฮไลท์อยู่ที่ “ภูเทวดา” บนยอดอยที่สูงที่สุด ซึ่งเป็นจุดชมวิวทะเลหมอก และพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยปังอลังการ

จองที่พักพะเยาราคาพิเศษกับ Traveloka คลิกที่นี่

6. ดอยเสมอดาว จ. น่าน

จุดชมวิว ณ ลานกว้างบนสนามหญ้าสำหรับกางเต็นท์ที่ความสูง 1,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลในเขตอุทยานแห่งชาติศรีน่าน ที่จัดเป็น Location สุด Prime ไม่ใช่แค่สำหรับการชมทะเลหมอกยามเช้าตลอดช่วงหน้าหนาวเท่านั้น แต่ยังสามารถจุดชมดาวสุดอลังการยามค่ำคืน ที่ดาวนับล้านดวงพร้อมกันส่องแสงระยิบระยับเหนือท้องฟ้ามืดสนิท ให้สมกับชื่อดอยเสมอดาว พร้อมสัมผัสอากาศอันเย็นสบายได้ตลอดทั้งปี

จองที่พักน่านราคาพิเศษกับ Traveloka คลิกที่นี่

7. ดอยหลวงเชียงดาว จ.เชียงใหม่

จุดชมวิวทะเลหมอก ณ ยอดเขาที่มีความสูงเป็นอันดับที่ 3 ของประเทศไทย ที่ความสูง 2,275 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลของดอยหลวงเชียงดาว ซึ่งรายล้อมไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ อากาศบริสุทธิ์ และเย็นสบายตลอดทั้งปี ให้ได้ไปสัมผัสความงามของธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ทั้งนอนดูทะเลดาว ยามเช้าชมทะเลหมอกให้สุดฟินแบบถึงแก่นแท้ของคนรักเขากันเลย

8. กิ่วแม่ปาน จ.เชียงใหม่

เส้นทางศึกษาเส้นทางธรรมชาติระยะสั้น จุดชมวิวทะเลหมอก และพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดดอยอินทนนท์ ไม่ไกลจากพระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ โดยมีทีเด็ดอยู่ที่จุดชมวิวที่ 9 ซึ่งเป็นชานไม้ยื่นออกไปเหนือขุนเขา และทะเลหมอกสุดฟิน ให้ได้ถ่ายรูปสวย ๆ พร้อมโอบกอดทะเลหมอกอย่างใกล้ชิด

จองที่พักเชียงใหม่ราคาพิเศษกับ Traveloka คลิกที่นี่

9. ดอยหลวงตาก จ.ตาก

จุดชมวิวทะเลหมอกที่เดินทางไม่ยาก อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพเท่าไรนัก แต่กลับไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก ในความดูแลของวนอุทยานน้ำตกห้วยแม่ไข่ กับระยะทางเดินเท้า 11 กิโลเมตรที่ท้าทายความเพียรของคนรักเขากว่าจะได้ชื่นชมทะเลหมอกอันสวยงาม ท่ามกลางทุ่งหญ้าสีเขียวเตี้ย ๆ บนยอดเขา ที่ให้บรรยากาศที่แปลกตาไปจากทะเลหมอกที่อื่น กับจุดชมวิว “เนินโล้นหลวง”

10. ม่อนกิ่วลม จ.ตาก

จุดชมวิวทะเลหมอกยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดตาก ในพื้นที่แนวตะเข็บชายแดนไทย - พม่า ของอุทยานแห่งชาติแม่เมย เนื่องจากการเข้าถึงง่าย เดินทางสะดวก รถยนต์เข้าถึงได้ และยังรับชมความงามของทะเลได้ถึงสองทิศทาง ทั้งทางด้านทิศตะวันตก และทิศตะวันออก หากใครที่เลิฟเขา รักทะเลหมอกมากจนยังไม่จุใจกับทะเลหมอกที่ ม่อนกิ่วลม ก็ยังสามารถไปฟินกันต่อกับจุดชมวิวทะเลหมอกอีกเกือบ 5 จุดในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่เมยได้อีกด้วย

จองที่พักตากราคาพิเศษกับ Traveloka คลิกที่นี่

11. ภูห้วยอีสัน จ.หนองคาย

Unseen ทะเลหมอกภาคอีสานก็สวยปังไม่แพ้ภาคอื่น ๆ เลยนะ แม้จะเป็นเนินเขาไม่สูงมากนักของชุมชนเล็ก ๆ ก็ยังสามารถชมความงามของทะเลหมอกได้อย่างที่ “ภูห้วยอีสัน” ในจังหวัดหนองคาย แม้จะเป็นเพียงเนินเขาเล็ก ๆ ที่เป็นพื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้านซึ่งใช้เวลาเดินเท้าจากเชิงเขาถึงยอดเพียงแค่ 10 นาทีแต่มีจุดให้แวะชมวิวทะเลหมอกได้ถึง 3 จุด และเมือ่แสงอาทิตย์สีท้องขึ้นสู่ท้องฟ้าแล้วก็ยังสามารถชมความงามของแม่โขงที่สะท้อนแสงสีทองของพระอาทิตย์สุดตระการตาได้อีกด้วย ต้องบอกว่าเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่จิ๋วแต่แจ๋วไม่แพ้ใครจริง ๆ

จองที่พักหนองคายราคาพิเศษกับ Traveloka คลิกที่นี่

12. ภูทอก จ.เลย

อีกหนึ่งจุดชมวิวทะเลหมอกแดนอีสานริมฝั่งโขง ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากโดยเฉพาะเมื่อได้แวะเวียนมาเยี่ยมเยียนเมืองสโลวไลฟ์อย่างเชียงคาน ก็พลาดไม่ได้ที่จะต้องชมทัศนียภาพของทะเลหมอกต้องแสงสีทองอ่อน ๆ ยามเช้าเหนือแม่น้ำโขงแบบพาโนราม่าที่ภูทอก ไม่ว่าจะหันซ้ายแลขวาก็เจอแต่หมู่ทะเลหมอกหนาฟุ้งราวกับปุยนุ่นสีขาวสบายตา ที่สำคัญคือที่ภูทอกมีทะเลหมอกให้ชมกันได้ตั้งแต่ช่วงปลายฝนจนถึงตลอดฤดูหนาวอีกด้วย

จองที่พักเลยราคาพิเศษกับ Traveloka คลิกที่นี่

13. ผาแต้ม จ.อุบลราชธานี

หน้าผาสูงในถิ่นอีสาน ที่มีทิวทัศน์ของสายหมอกลอยระรินไปกับสายน้ำโขงเบื้องล่าง อันถือเป็นกิมมิคของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อีกทั้งยังเป็นจุดแรกที่พระอาทิตย์ขึ้นก่อนใครในเมืองไทยอีกด้วย ปักหมุดที่ผาแต้มนอกจากจะได้อินกับทะเลหมอกแสนสวยแล้ว ยังได้เห็นแสงแรกของวันก่อนใคร ๆ อีกด้วย ดีงาม x2 แบบนี้แล้วจะพลาดได้ยังไงล่ะ

จองที่พักอุบลราชธานีราคาพิเศษกับ Traveloka คลิกที่นี่

14. เขาพะเนินทุ่ง จ.เพชรบุรี

จุดชมวิวทะเลหมอกบนยอดเขาสูงในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ที่มีทะเลหมอกให้ชมกันได้เกือบตลอดทั้งปี อันเนื่องมาจากความชุ่มชื้นและอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าดงดิบเบื้องล่าง ที่พร้อมใจกันคายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาปะทะสายลมหนาวยามเช้า จนกลายเป็นสายหมอกสีขาวเคลื่อนตัวคลอเคลียแมกไม้ใหญ่ของขุนเขาสีเขียวชอุ่ม จนกลายเป็นอีกหนึ่งภาพประทับใจที่คนรักเขายากจะลืมเลือน

จองที่พักเพชรบุรีราคาพิเศษกับ Traveloka คลิกที่นี่

15. เขาไข่นุ้ย จ.พังงา

ใครว่าภาคใต้มีแต่ทะเล ลองดูพิสูจน์ที่เขาไข่นุ้ยจังหวัดพังงาดูซิ ที่สำคัญและสุด Unseen มาก ๆ คือแม้จะเป็นทะเลหมอกในภาคใต้ แต่มีทะเลหมอกให้ชมตลอดทั้งปีแม้ในฤดูร้อน ถ้าจะให้เด็ดต้องเช็คสภาพอากาศให้ดี แล้วมาในวันฟ้าเปิด คลื่นลมสงบ ก็จะได้พบไอทะเลหมอกสีขาวคล้ายปุยเมฆของเขาไข่นุ้ยแห่งนี้อย่างชัดเจน

จองที่พักพังงาราคาพิเศษกับ Traveloka คลิกที่นี่

แนะนำที่เที่ยวเขา ๆ ทั้ง 15 ที่ ๆ ยังมีทะเลหมอกอยู่สำหรับนักเที่ยวสายรักธรรมชาติ รักป่าเขาและสายหมอกกันไปแล้ว ส่วนใครจะเลือกไปฟินกับทะเลหมอกที่ไหนกันนั้น ก็เอาตามที่สบายใจเลย เพราะได้แนะนำไปแล้วเกือบทั่วทุกภูมิภาค ปักหมุดเลือกที่โดนใจแล้วจะรออะไร จองที่พักแล้วออกลุยกันเลย

จองโรงแรม
จองตั๋วเครื่องบิน
Things to Do
รับทราบข้อมูลใหม่ ๆ ตลอดเวลา
สมัครรับจดหมายข่าวของเรา เพื่อคำแนะนำการท่องเที่ยวและรูปแบบการใช้ชีวิตที่มากขึ้น พร้อมด้วยข้อเสนอที่น่าตื่นเต้น
สมัคร