จิ่วจ้ายโกว พื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติทางตอนเหนือของมณฑลเสฉวน ประเทศจีน คือสวรรค์บนดินที่ใคร ๆ ต่างก็หลงรัก ด้วยทัศนียภาพอันงดงามของทะเลสาบสีฟ้าคราม ภูเขาเขียวขจี และป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

ทว่า จิ่วจ้ายโกวในแต่ละฤดูกาลมีความสวยงามที่แตกต่างกันออกไป บทความนี้จึงอยากจะพาคุณไปสำรวจว่า หากวางแผนไปจิ่วจ้ายโกวควรเดินทางช่วงเดือนไหนดี พร้อมแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจที่ควรไปเยือน แต่ถ้าใครปักหมุดวันเดินทางเรียบร้อยแล้ว ก็มาวางแผนจองตั๋วเครื่องบินและที่พักผ่านแอปพลิเคชัน Traveloka ได้เลย แถมจองง่าย จ่ายสะดวก ช่วยให้คุณแพลนทริปได้ครบ จบในแอปฯ เดียวเท่านั้น

เพื่อให้คุณได้สัมผัสความงามของจิ่วจ้ายโกวอย่างเต็มที่ เรามาดูกันว่าแต่ละฤดูกาลมีความพิเศษอย่างไร และช่วงไหนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเดินทาง

ฤดูใบไม้ผลิ เป็นช่วงที่ดอกไม้นานาพันธุ์จะเริ่มทยอยบานสะพรั่ง เปลี่ยนจิ่วจ้ายโกวให้กลายเป็นสวนดอกไม้ธรรมชาติขนาดใหญ่ ขณะเดียวกัน ทะเลสาบที่เคยถูกน้ำแข็งปกคลุมในฤดูหนาวจะเริ่มละลาย เผยให้เห็นผิวน้ำสีฟ้าใสราวกับกระจก นอกจากนี้ อากาศที่เย็นสบายยังเอื้อต่อการเดินป่าและสำรวจธรรมชาติอย่างเต็มที่ สำหรับคนที่อยากมาเยือนจิ่วจ้ายโกวในบรรยากาศสดใส ถ่ายรูปสวย ฤดูใบไม้ผลิถือเป็นช่วงที่พลาดไม่ได้

ฤดูร้อนคือช่วงที่จิ่วจ้ายโกวอุดมสมบูรณ์อย่างเต็มที่ ทะเลสาบสีฟ้าจะสะท้อนภาพของขุนเขาและท้องฟ้าอย่างชัดเจน อีกทั้งน้ำตกยังจะมีปริมาณน้ำมากที่สุดในรอบปี พร้อมส่งเสียงกึกก้องและสร้างละอองน้ำที่ให้ความสดชื่น ขณะเดียวกัน แสงแดดอันอบอุ่นยังจะทำให้ทิวทัศน์สว่างไสวและเป็นประกาย ไม่ว่าจะถ่ายรูปมุมไหนก็สวย บอกเลยว่าฤดูนี้เป็นสวรรค์ของคนรักธรรมชาติอย่างแท้จริง

หากถามว่า จิ่วจ้ายโกว ควรไปเดือนไหนถึงจะเหมาะที่สุด คำตอบยอดนิยมของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่คือช่วงฤดูใบไม้ร่วง เนื่องจากในช่วงนี้ ทิวทัศน์จะเต็มไปด้วยใบไม้ที่เปลี่ยนเป็นสีแดง ส้ม และเหลือง บรรยากาศดูงดงาม เมื่อน้ำสีฟ้าในทะเลสาบตัดกับภาพของใบไม้ ยิ่งไปกว่านั้น อากาศในฤดูนี้ยังเย็นสบาย ไม่หนาวจนเกินไป จึงเหมาะสำหรับการเดินทางและสำรวจสถานที่ต่าง ๆ

สำหรับผู้ที่หลงใหลในความงามของหิมะและน้ำแข็ง ฤดูหนาวที่จิ่วจ้ายโกวคือคำตอบที่คุณรอคอย โดยในช่วงนี้ ทะเลสาบหลายแห่งจะถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็ง ภูเขาและป่าไม้ถูกห่มด้วยหิมะขาวโพลน สร้างทัศนียภาพที่เงียบสงบและงดงามราวกับโลกในจินตนาการ ทั้งนี้ แม้อากาศจะหนาวจนต้องใส่เสื้อผ้าเพิ่มความอบอุ่น แต่ถ้าเทียบกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ไม่ได้เห็นกันบ่อย ๆ ยังไงก็ถือว่าคุ้ม !

สำหรับคนที่กำลังวางแผนเดินทางไปจิ่วจ้ายโกว เรามีที่ท่องเที่ยวไฮไลต์สำคัญมาแนะนำ ดังต่อไปนี้

เริ่มต้นการผจญภัยในจิ่วจ้ายโกวด้วยทะเลสาบห้าสี หนึ่งในไฮไลต์ที่มีชื่อเสียงและงดงามที่สุด อีกทั้งความพิเศษของทะเลสาบแห่งนี้ยังอยู่ที่สีของน้ำที่จะเปลี่ยนแปลงตลอดวัน จากเฉดน้ำเงินเขียวไปจนถึงเหลืองทองอร่าม ซึ่งเกิดจากแร่ธาตุและพืชใต้น้ำที่สะท้อนแสงอาทิตย์

โดยทะเลสาบแห่งนี้ ยังถูกโอบล้อมด้วยภูเขาสูงตระหง่านและป่าไม้เขียวขจี สร้างฉากหลังที่สมบูรณ์แบบสำหรับการพักผ่อนและถ่ายภาพ ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือ หากคุณมาเยือนในช่วงฤดูใบไม้ร่วง จะได้ชมภาพใบไม้หลากสีร่วงหล่นลงสู่ผืนน้ำ ช่วยเพิ่มความงดงามให้แก่ทัศนียภาพโดยรอบอีกด้วย

ถัดจากทะเลสาบห้าสี คุณจะได้พบกับน้ำตกนั่วรื่อหลาง ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่ใหญ่และสวยที่สุดในจิ่วจ้ายโกว ด้วยความสูงกว่า 25 เมตรและความกว้างถึง 32 เมตร ทำให้ได้ยินเสียงน้ำตกกระทบโขดหินพร้อมกับได้รับความสดชื่นจากละอองน้ำ ใครชื่นชอบบรรยากาศแบบธรรมชาติขั้นสุดต้องตกหลุมรักที่นี่

ที่น่าสนใจคือ น้ำตกนั่วรื่อหลางมีความงามที่แตกต่างกันในแต่ละฤดูกาล ในฤดูร้อน คุณจะได้เห็นน้ำตกที่มีปริมาณน้ำมากที่สุด แสดงให้เห็นถึงพลังอันยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ส่วนในฤดูหนาว น้ำตกจะกลายเป็นม่านน้ำแข็งบางส่วน ประดับด้วยหิมะขาวโพลน สร้างภาพที่สวยงามราวกับเป็นฉากในภาพยนตร์แฟนตาซี

ทะเลสาบกระจกเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนจิ่วจ้ายโกว ชื่อของทะเลสาบบอกถึงลักษณะเด่นได้อย่างชัดเจน เพราะผืนน้ำที่ใสราวกับกระจกเงาสามารถสะท้อนภาพของท้องฟ้า ภูเขา และต้นไม้โดยรอบได้อย่างคมชัด เมื่อยืนริมทะเลสาบ คุณจะรู้สึกราวกับกำลังมองดูโลกคู่ขนานที่สมบูรณ์แบบ

บรรยากาศอันเงียบสงบผสานกับความงามตามธรรมชาติ ทำให้ทะเลสาบกระจกกลายเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยม โดยเฉพาะในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ภาพสะท้อนบนผิวน้ำจะยิ่งเปล่งประกาย ทำให้การมาเยือนทะเลสาบกระจกเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำอย่างยิ่ง

ปิดท้ายการเที่ยวจิ่วจ้ายโกวด้วยทะเลสาบแรด สถานที่อันน่าหลงใหลที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางภูเขาและป่าไม้อันงดงาม ความโดดเด่นของทะเลสาบแห่งนี้อยู่ที่ผืนน้ำใส ที่สะท้อนภาพธรรมชาติโดยรอบ สร้างทัศนียภาพที่น่าประทับใจไม่ว่าจะมาเยือนในฤดูกาลใดก็ตาม

แม้ทะเลสาบแรดจะสวยงามตลอดทั้งปี แต่ช่วงฤดูหนาวถือเป็นเวลาที่มีเสน่ห์เป็นพิเศษ โดยในช่วงนี้ บริเวณโดยรอบจะถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน สร้างภาพที่งดงามราวกับอยู่ในเทพนิยาย นับเป็นจุดไฮไลต์ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเก็บภาพความประทับใจกันอย่างไม่รู้เบื่อ

การเดินทางไปยังจิ่วจ้ายโกวนั้นมีสองทางเลือกหลัก คือทางเครื่องบินและทางรถยนต์ โดยจุดเริ่มต้นที่สะดวกที่สุดสำหรับทั้งสองวิธีคือเมืองเฉิงตู (Chengdu) ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่อยู่ใกล้จิ่วจ้ายโกวมากที่สุด ลองมาดูรายละเอียดของแต่ละวิธีกัน

1. การเดินทางทางเครื่องบิน

2. การเดินทางทางรถยนต์หรือรถบัส

ไม่ว่าคุณจะเลือกวิธีใด ทั้งสองทางเลือกนี้ล้วนมีเสน่ห์และข้อดีที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความชอบและเวลาที่คุณมี ทั้งนี้ อย่าลืมวางแผนล่วงหน้า เพื่อช่วยให้ทริปเดินทางไปจิ่วจ้ายโกวของคุณราบรื่นและสนุกสนานยิ่งขึ้น

ก่อนที่จะบินลัดฟ้าไปจิ่วจ้ายโกว เพื่อสัมผัสดินแดนแห่งธรรมชาติที่ได้รับการขนานนามว่าสวยงามราวกับสวรรค์บนดิน อย่าลืมตรวจสอบราคาตั๋วเครื่องบินที่แอปพลิเคชัน Traveloka แพลตฟอร์มที่คุณสามารถจองตั๋วเครื่องบินและที่พักได้อย่างครบครัน พร้อมกันนั้น ยังมีโปรโมชันพร้อมดีลสุดคุ้มมากมายรอคุณอยู่ ดาวน์โหลดและใช้งานฟรีได้แล้ววันนี้ทั้งบน IOS และ Android

ข้อมูลอ้างอิง