ถ้าเอ่ยถึงชื่อเมืองเชียงคาน หลายคนคงจินตนาการได้ถึงภาพบ้านเรือนไม้แบบโบราณที่ตั้งเรียงรายเป็นหมวดหมู่ไปสองฝั่งถนน เชียงคานเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดเลย ตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำโขง ความน่าสนใจอยู่ที่การเป็นเมืองซึ่งผู้คนยังคงดำรงชีวิตอยู่ในวิถีแบบเรียบง่าย ในวัฒนธรรมเดิมแบบที่เคยเป็นมา และด้วยความที่เป็นอำเภอที่อยู่ติดชายโขง ทำให้บางคนเรียกขานเชียงคานว่าเป็นเมืองพี่น้องกับเมืองหลวงพระบาง ทางฝั่งลาว เนื่องจากผู้คนในเชียงคานมีวิถีชีวิตที่ยังคงความสบาย เนิบช้า และยังมีบางวัฒนธรรมที่ยังคงสืบสานมาจากทางฝั่งลาวตั้งแต่ในยุคก่อน อย่างเช่นการตักบาตรข้าวเหนียว เป็นต้น เนื่องจากในสมัยก่อน เชียงคานเคยเป็นเมืองหนึ่งของอาณาจักรลาว แต่เนื่องจากมีเหตุสงครามหลายครั้ง ผู้คนจึงมีการโยกย้ายไปมาระหว่างพื้นที่สองฝั่งแม่น้ำโขง จึงทำให้เกิดวัฒนธรรมที่ผสมผสานปนเปและคล้ายคลึงกัน และวิถีชีวิตเยี่ยงนี้นี่เองที่เป็นเสน่ห์ส่วนตัวที่ทำให้ใครต่อใครหลงรักความเรียบง่ายน่ารักในเมืองเชียงคาน
จากอดีตสู่ปัจจุบัน แม้จะมีหลายเสียงบอกว่าเชียงคานกำลังค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม แต่ก็ยังปฏิเสธไม่ได้ว่าด้วยความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่งดงามแปลกตา ตึกราบ้านช่อง รูปแบบการใช้ชีวิตของคนเชียงคาน เสน่ห์ของเมืองนั้นยากที่จะเปลี่ยนไป
เดิมทีที่พักในเมืองเชียงคาน มักจะมีลักษณะเป็นโฮมสเตย์เป็นส่วนใหญ่ แต่ในภายหลังจากที่การท่องเที่ยวในเมืองเชียงคานเริ่มได้รับความนิยมมากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวเริ่มมีการขยายตัวและเพิ่มรูปแบบที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ทำให้มีตัวเลือกมากขึ้นทั้งในด้านของรูปแบบที่พักและราคา แต่ที่พักซึ่งมักได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวซึ่งเดินทางมาเชียงคานอยู่ตลอดเวลา ต้องยกให้กับที่พักซึ่งตั้งอยู่ติดกับริมแม่น้ำโขง และที่พักซึ่งอยู่ใกล้กับถนนคนเดิน โดยเฉพาะหากเป็นที่พักในราคาประหยัดด้วยแล้ว ยิ่งมีนักท่องเที่ยวจองเต็มเกือบตลอดเวลา เพราะวิวทิวทัศน์ที่สงบและสวยงามของแม่น้ำโขงในยามเช้าและเย็นนั้นยังคงครองใจนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ได้เสมอ รวมถึงถนนคนเดินซึ่งเป็นสีสันที่สร้างชีวิตชีวาให้เชียงคานอย่างมากนั้น ก็ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวและศูนย์รวมร้านอาหารรสชาติดี ที่เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์หลักในเมืองเชียงคานเช่นกัน ในส่วนของที่พักราคาถูกในเมืองเชียงคานก็มีอยู่หลายแห่ง ตัวอย่างเช่น เจเจ แอท เชียงคาน, ลามูนวิลล่า, จำเลยรัก เชียงคาน, เอนกาย สบาย โฮมสเตย์ และ ไทยมณี เป็นต้น
ที่เชียงทอง แอท เชียงคานแห่งนี้เป็นที่พักสวยใกล้ถนนคนเดินเชียงคาน เชียงทอง แอท เชียงคานคือหนึ่งในที่พักราคาถูกเชียงคานที่ต้องบันทึกไว้ในลิสต์ ด้วยราคาที่เป็นมิตร โดยเริ่มต้นที่ 700 บาทต่อคืน เทียบกับความสะดวกสบายแล้ว บอกเลยว่าคุ้มค่า
ที่พักเชียงคานราคาถูกแห่งนี้ เป็นรีสอร์ตที่สวยงาม ใกล้ชิดธรรมชาติ ใกล้ภูเขาและต้นไม้มากๆ ราคาต่อคืนก็เป็นมิตร เริ่มต้นที่ 600-700 บาทต่อคืนเท่านั้น ที่นี่จะมีห้องแบบบ้านไม้หลังเล็กแยกกันในแต่ละหลัง เรียงต่อกันยาวภายในรีสอร์ต ใครที่ได้ไปเชียงคานต้องลองไปพักที่นี่สักครั้ง
หม่อลาว แอท เชียงคาน เป็นที่พักเชียงคานแบบโฮมสเตย์ ที่นี่บอกเลยว่าแนะนำให้ไปพักเป็นอย่างมาก การตกแต่งมีความสวยแบบคลาสสิก ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ผู้พักสามารถตื่นมาและเดินเล่นริมน้ำได้อย่างสุดฟิน เป็นอีกหนึ่งทีพักที่ผู้เข้าพักจากหลากหลายท่านแนะนำ
เป็นที่พักในเชียงคานที่น่าจะติดโผหนึ่งในที่พักยอดนิยมไปเรียบร้อย ด้วยเสน่ห์ความเป็นบ้านไม้ในรูปแบบเดิมๆ แต่เพิ่มเติมดีไซน์เก๋ๆ ลงไป สงบ สบาย และอยู่ริมแม่น้ำโขง นอกจากนั้นยังตั้งอยู่บนเส้นทางถนนคนเดินของเชียงคาน ใกล้กันมีร้านอาหารและร้านขายของเรียงราย จึงค่อนข้างสะดวกสบายมากสำหรับนักท่องเที่ยว
อีกหนึ่งที่พักในเชียงคานที่เป็นบ้านไม้แบบโบราณ แต่เพิ่มเติมดีไซน์เก๋ๆ ที่เน้นความงามของเสน่ห์แบบเดิมเพิ่มเข้าไป อยู่ใกล้ถนนคนเดิน ร้านอาหาร และร้านค้า มีจักรยานให้เช่าขี่เล่นในบริเวณตัวเมือง เดินทางง่าย แต่ยังคงไว้ซึ่งความสงบและส่วนตัว
หากอยากได้ที่พักในเชียงคานที่อยู่ติดริมแม่น้ำโขง โรงแรมนี้เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะสามารถมองวิวแม่น้ำโขงได้จากในห้องพัก และอยู่ไม่ไกลมากจากถนนคนเดิน ตกแต่งแบบร่วมสมัยเน้นการใช้ไม้และกระจกใสเพิ่มความโปร่งสบาย มีห้องให้เลือกหลายแบบ พื้นที่นั่งเล่นส่วนกลางกว้างขวาง เหมาะสำหรับนั่งเอนกายรับลมเย็นสบายๆ ในวันพักผ่อน
เป็นที่พักในเชียงคานที่ยังคงสไตล์เป็นบ้านไม้หลังใหญ่แบบไทยๆ และดั้งเดิม อยู่ติดริมแม่น้ำโขงจึงสามารถนั่งหรือนอนเอนกายชมวิวแม่น้ำจากในห้องพักบางห้องได้เลย สะดวกสบายเพราะอยู่ใกล้กับถนนคนเดินเชียงคาน มีพื้นที่นั่งเล่นส่วนกลาง พร้อมเครื่องอำนวยความสะดวกสบายในห้องครบครัน
ที่พักริมแม่น้ำโขงอีกหนึ่งแห่ง ที่เน้นตกแต่งในรูปแบบไทยประยุกต์กับสีสันสดใสในบางมุม มองเห็นวิวแม่น้ำได้จากระเบียงหน้าห้องพัก เน้นการใช้ไม้ทำให้ได้อารมณ์สงบและเคร่งขรึม เป็นส่วนตัว อยู่ห่างจากถนนคนเดินไม่ไกล จึงหมดปัญหาหากคุณเป็นคนไม่ชอบความวุ่นวายพลุกพล่านของผู้คน
ที่พักริมฝั่งโขง ที่มีวิวป่า ภูเขา และแม่น้ำแบบครบรส เป็นที่พักแบบเรียบง่าย เน้นความกลมกลืนกับธรรมชาติรอบด้าน มีห้องพักหลายรูปแบบให้เลือกได้ตามความพอใจและจำนวนของผู้เข้าพัก ทั้งแบบเต้นท์, รถบ้าน และวิลล่า โดยที่พักแบบวิลล่าจะเป็นแบบเดียวที่มีห้องน้ำในตัว นอกนั้นจะเป็นแชร์ห้องน้ำ มีพื้นที่สวนส่วนกลางให้เดินพักผ่อน ให้ความรู้สึกสงบ เป็นส่วนตัว และไม่พลุกพล่านวุ่นวาย
หากกำลังมองหา ที่พักสไตล์โฮมเตย์ ในแบบที่เป็นบ้านไม้ในสไตล์แบบดั้งเดิม บ้านลอยฟ้า ริเวอร์ไซด์ เป็นหนึ่งตัวเลือกน่าสนใจในเชียงคาน ที่นี่มีการตกแต่งแบบเรียบง่ายเน้นการใช้สอยเป็นหลัก อยู่ห่างออกมาจากถนนคนเดินนิดหน่อยจึงสงบ เงียบ ไม่พลุกพล่าน เหมาะกับคนชอบความเป็นส่วนตัวเป็นพิเศษ ที่สำคัญอยู่ติดริมน้ำอีกด้วย เป็นอีกที่พักที่ครบจบอีกที่เลยทีเดียว
Reaun Eak Resort เป็นที่พักแบบเรียบ ง่าย ไม่เน้นการตกแต่งหวือหวา พักสบาย เดินทางสะดวกเพราะใกล้ที่เที่ยว รูปแบบที่พักจะคงสภาพความเป็นบ้านพักแบบดั้งเดิมและเป็นกันเองเอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม อยู่ห่างจากแหล่งชุมชนอันพลุกพล่านจึงค่อนข้างสงบเงียบและเป็นส่วนตัว ห้องพักกว้างขวางพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำครบครัน
หากคุณกำลังมองหาที่พักหลักร้อย วิวหลักล้านๆ ที่คุณสามารถตื่นมาเห็นหมอกสวยสุดลูกหูลูกตา บ้านเอเครีสอร์ทตอบโจทย์ค่ะ ที่นี่เป็นรีสอร์ทขนาดเล็กราคาดี ที่ให้บรรยากาศสงบ และเป็นส่วนตัว เป็นที่พักในรูปแบบร่วมสมัยที่อยู่ไกลออกมาจากตัวเมืองเชียงคานเล็กน้อย จึงห่างไกลจากความพลุกพล่านวุ่นวาย มีพื้นที่สนามหญ้ากว้างขวางจึงสามารถสัมผัสกับบรรยากาศธรรมชาติรอบด้านได้เต็มที่ทั้งในตอนเช้าและเย็น
น้ำโขงธารารีสอร์ท ที่พักสีสันสดใส หลังคาสีม่วง เต็มไปด้วยต้นไม้ดอกไม้งามรายล้อมรีสอร์ท ถ้าหากมองหารีสอร์ทในรูปแบบใกล้ชิดธรรมชาติไว้สำหรับเป็นที่พักในการเดินทางไปเชียงคาน นี่อาจเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ ตัวที่พักเป็นบ้านเดี่ยวหลังเล็กให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวสำหรับผู้เข้าพัก อยู่ห่างจากแหล่งท่องเที่ยวอย่างแก่งคุดคู้เพียงแค่ 400 เมตรนิดๆ เท่านั้น มีพื้นที่สนามส่วนกลางกว้างขวางให้ได้เดินเล่นรับลมเย็นสบาย
ที่พัก 4 ดาวเชียงคาน วิวสวยมากกกกกกก ที่ทุกคนนึกถึง จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ เชียงคาน ริเวอร์ เมาท์เทน รีสอร์ท ที่นี่อยู่ติดริมแม่น้ำ ห้องพักขนาดใหญ่ การตกแต่งเป็นไม้ให้ความรู้สึกอบอุ่น ได้ความรู้สึกแบบอยู่เชียงคานยังไงยังงั้น มองจากห้องพักก็เห็นประเทศเพื่อนบ้านเลย ด้วยความที่เป็นรีสอร์ท 4 ดาว นั้นก็มั่นใจได้เลยเรื่องคุณภาพ ทั้งการพักอาศัย สิ่งอำนวยความสะดวก การบริการ อาหาร และอื่นๆ
เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่ขึ้นชื่อของอำเภอเชียงคาน โดยส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวเชียงคานแทบทุกคนจะต้องเดินทางมายังภูทอก เพื่อสัมผัสอากาศเย็นๆ ในยามเช้า และหากโชคดีก็จะมีโอกาสได้ชมวิวทะเลหมอกอันสวยงามจากด้านบนอีกด้วย ภูทอกอยู่ห่างจากตัวอำเภอเชียงคานมาเพียงแค่ราวๆ 3 กิโลเมตรเท่านั้น ด้านบนสุดของภูทอกเป็นที่ตั้งของสถานีโทรคมนาคมเชียงคาน โดยทางขึ้นสู่ภูทอกตั้งอยู่บนถนนเดียวกันกับทางไปแก่งคุดคู้ แต่มีทางเลี้ยวแยกออกมา วิธีการขึ้นไปชมทะเลหมอกและจุดชมวิวที่ด้านบนภูทอก ต้องนั่งรถกระบะที่มีไว้สำหรับรับ-ส่งนักท่องเที่ยวเท่านั้น โดยส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจึงมักใช้วิธีเหมารถสกายแล็ปมาจากตัวเมืองเชียงคาน แล้วจึงมาต่อรถขึ้นภูที่บริเวณด้านล่าง หากโชคดีและสภาพอากาศเป็นใจ นักท่องเที่ยวจะได้เห็นภาพวิวสวย 360 องศาของทะเลหมอกในยามเช้าได้แบบเต็มอิ่ม แต่หากไม่ได้เห็นทะเลหมอกก็ไม่ต้องเสียใจ เพราะยังมีวิวของแก่งคุดคู้และแม่น้ำโขง รวมถึงตัวเมืองเชียงคานในมุมสูงสวยแปลกตารออยู่แน่นอน หากคุณอยากมองหาที่พักใกล้ๆ กับภูทอก ตัวเลือกที่น่าสนใจมีอยู่หลายแห่ง อาทิ บ้านเอเค รีสอร์ท, ตำหนักเอก รีสอร์ท, วี 1 รีสอร์ท, เจเจ แอท เชียงคาน และไทยมณี เป็นต้น
หากอยากขึ้นไปชมทะเลหมอกบนยอดภูทอก แนะนำให้ไปในเวลา 5.30 – 8.00 น.
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งมีชื่อเสียงในเชียงคานนั่นคือแก่งคุดคู้ ซึ่งเป็นแก่งหินใหญ่ที่ตั้งขวางกลางแม่น้ำโขง แก่งคุดคู้อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงคานไปราวๆ 3 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นโค้งน้ำ มีพื้นที่ริมฝั่งกว้างขวาง ตัวแก่งเป็นแนวหินกลางลำน้ำ และเนื่องจากหินเหล่านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแม่น้ำมาเป็นเวลานาน จึงมีรูปร่างและสีสันแตกต่างกันไป ตัวแก่งกว้างใหญ่เกือบจรดสองฝั่งแม่น้ำโขง มีกระแสน้ำไหลผ่านไปเพียงช่องแคบ ๆ ใกล้ฝั่งไทยเท่านั้นเอง ซึ่งกระแสน้ำจะค่อนข้างเชี่ยวกราก ระยะเวลาที่เหมาะจะดูแก่งคุดคู้อยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม เนื่องจากเป็นช่วงหน้าแล้งที่น้ำน้อย จึงทำให้เห็นแก่งหินได้อย่างชัดเจนมากขึ้น บริเวณริมฝั่งมีบริการเรือหางยาวให้เช่าหากนักท่องเที่ยวต้องการนั่งเรือชมวิวริมฝั่งโขง รวมถึงมีร้านอาหารตั้งเรียงรายรอให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือน
เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 16 ของประเทศไทย มีเนื้อที่โดยรวมประมาณ 120.84 ตารางกิโลเมตร มีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน รวมถึงที่ราบสูงสลับกับยอดเขาหินทรายสูง มียอดภูเรือเป็นยอดเขาสูงสุด โดยสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,365 เมตร เป็นแหล่งต้นน้ำสำคัญหลายสาย รวมถึงเป็นต้นทางของน้ำตกอีกมากมาย ที่มาของชื่อภูเรือนั้น มาจากชะโงกผาบนยอดดอยสูงที่ยื่นออกมา มองดูคล้ายเรือสำเภาขนาดใหญ่รวมถึงยังมีพื้นที่ราบคล้ายกับท้องเรืออีกด้วย ชาวบ้านจึงเรียกชื่อสถานที่นี้ว่าภูเรือกันเรื่อยมา บนเส้นทางเดินขึ้นสู่ยอดภูเรือ มีสภาพป่าไม้ที่หลากหลายและสวยงามแปลกตา เป็นป่าสนเขาสลับกับสวนหินตามธรรมชาติและทุ่งหญ้าเขียวขจีเป็นระยะๆ รวมถึงยังมีดอกไม้ป่าที่หายากและสวยงามอีกมากมายหลายพันธุ์ซึ่งจะพบเห็นได้ตลอดทาง นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมขึ้นมาพักแรมกางเต๊นท์บนยอดภูเรือในช่วงฤดูหนาว เพื่อสัมผัสธรรมชาติอันสวยงามและอากาศเย็นจัด ซึ่งในบางคราวหากโอกาสดี นักท่องเที่ยวอาจมีโอกาสได้เห็นน้ำค้างแข็งหรือแม่คะนิ้งอีกด้วย หากสนใจอยากลองมองหาที่พักใกล้กับภูเรือ ก็นับว่ามีที่พักหลายแห่งซึ่งน่าสนใจ ตัวอย่างเช่น ไทยเลย 300 ปี รีสอร์ท, Phurua Sanctuary Resort and Spa, ระยองภูเรือรีสอร์ท, Le Bar Tarry Hotel และ ภูเรือคีรีรีสอร์ท เป็นต้น
ไฮไลท์สำคัญของการมาท่องเที่ยวที่อำเภอเชียงคาน นอกจากความสงบเรียบง่ายของวิถีชีวิตผู้คนในท้องถิ่น และธรรมชาติสวยๆ รอบด้านแล้ว คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าคือการได้มีโอกาสเดินเล่นในถนนคนเดินเมืองเชียงคาน ถนนเส้นเล็กๆ ที่สองฟากฝั่งเป็นอาคารไม้สวยๆ แบบสมัยโบราณ ถัดไปอีกนิดก็เป็นความสงบงามของแม่น้ำโขง ถนนคนเดินเชียงคานยังคงสะท้อนวัฒนธรรมหลายอย่างของผู้คนในท้องถิ่นแถบนี้ได้ดี ที่เห็นได้ชัดก็อาจจะเป็นในเรื่องของอาหารท้องถิ่นอย่างข้าวจี่ กุ้งย่าง หรืออื่นๆ นอกจากนั้น ยังมีข้าวของเครื่องใช้ในรูปแบบงานฝีมือดั้งเดิม และที่ได้ผ่านการประยุกต์รูปแบบมาแล้วเพื่อให้เข้ากับความนิยมและยุคสมัย และยิ่งประกอบกับอากาศเย็นสบายในช่วงฤดูหนาวด้วยแล้วละก็ ใครที่ได้มาเดินเล่นบนถนนเส้นนี้ในช่วงนั้นถือว่าฟินเลยละ ถือว่าเป็นถนนช่วงสั้นๆ ที่อัดแน่นไปด้วยความบันเทิงในรูปแบบของวัฒนธรรมท้องถิ่นมากมาย ที่บอกได้ว่าหากได้มีโอกาสมาเยือนเชียงคาน ต้องห้ามพลาดการได้มาเดินเล่นช้อป ชม ชิลล์ บนถนนคนเดินน่ารักๆ สายนี้จริงๆ และหากคุณอยากมองหาที่พักที่น่าสนใจใกล้กับถนนคนเดินเชียงคานละก็ นับว่ามีหลายตัวเลือกที่น่าสนใจ อาทิ จำเลยรัก เชียงคาน, สุเนต์ตา โฮสเทล เชียงคาน, ไทยมณี, เชียงคานบุรี และ Poonsawasdi Hotel เป็นต้น
เปิดบริการ ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 17.00 – 22.00 น.
บางคนเรียกว่าวัดใหญ่ ถือเป็นหนึ่งในศาสนสถานที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของผู้คนในเชียงคาน ตั้งอยู่บนถนนชายโขง ระหว่างซอยศรีเชียงคาน 6 และ 7 สร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2485 ถือเป็นวัดที่อยู่คู่เมืองเชียงคานมาอย่างยาวนาน ทุกวันพระและวันสำคัญทางพุทธศาสนา ชาวบ้านรวมถึงนักท่องเที่ยวมักจะรวมตัวกันมาทำกิจกรรมทางศาสนาที่วัดนี้อยู่เป็นประจำ หลังคาพระอุโบสถมีลักษณะศิลปะกรรมเป็นแบบล้านนา ด้านในพระอุโบสถจะมีพระพุทธรูปไม้จำหลัก ปางประทานอภัย ลงรักปิดทอง สร้างตามแบบล้านช้างหรือแบบลาว ซึ่งคาดว่าจะสร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 24 – 25 ซึ่งมีข้อระบุให้ผู้หญิงกราบไหว้สักการะพระพุทธรูปองค์นี้ได้ใกล้ที่สุดแค่เพียงบริเวณด้านล่างของอาสนะสงฆ์เท่านั้น ในส่วนของด้านข้างองค์พระประธานจะมี ‘ฮางฮด’ หรือ รางรด ซึ่งตัวรางจะเป็นรูปเรือสุพรรณหงส์ ด้านหน้าเป็นเศียรพญานาค ซึ่งรางรดนี้จะใช้ในการประกอบพิธีสรงน้ำพระผู้ใหญ่หรือเจ้าเมืองเท่านั้น นับเป็นของสำคัญที่หาชมได้ยากแล้วในยุคปัจจุบันนี้ และหากต้องการมองหาที่พักในเชียงคานซึ่งอยู่ใกล้กับวัดศรีคุณเมือง ตัวเลือกที่น่าสนใจก็มีอยู่หลายแห่ง อาทิ เฮือนคุ้มฮัก ณ เชียงคาน, มุ้ยฟัง เกสต์เฮ้าส์ และ สองผัวเมีย เกสท์เฮาส์ เป็นต้น
ถึงแม้ว่าสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้จะไม่ได้อยู่ใกล้เมือง แต่ก็คุ้มค่าที่จะมา เนื่องจากหมู่บ้านวัฒนธรรมไทดำนี้เปรียบเสมือนเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิตขนาดย่อม ภายในคุณจะเห็นถึงศิลปะ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไทดำ ที่จะทำให้ทุกคนได้เห็น และเข้าถึงวัฒนธรรมของชาวไทดำอย่างแท้จริง ซึ่งจุดประสงค์อย่างหนึ่งที่ชาวไทดำได้เปิดหมู่บ้านแห่งนี้ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชม ก็เพราะว่าอยากจะสืบสาน และอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งวัฒนธรรมไทดำนี้ให้คงอยู่สืบไป
เฮือนหลวงพระบาง
ร้านเฮือนหลวงพระบาง เป็นร้านอาหารชื่อดังที่อยู่คู่กับเมืองเชียงคานมายาวนาน บริการอาหารหลากหลายรูปแบบ ทั้งอาหารไทย จีน ลาว และเวียดนาม ภายในและภายนอกร้าน ให้บรรยากาศสบายๆ เป็นกันเอง ร้านเป็นแบบอยู่ใต้บ้านไม้แบบดั้งเดิม มองเห็นวิวสวยๆ ของแม่น้ำโขง เมนูแนะนำให้ลองคือ เอาะหลาม และหลนหลวงพระบาง ที่บอกเลยว่า ถ้าได้ไปถึงเชียงคาน ต้องไปลอง!
วันและเวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00 - 15.00 น. และ 17.00 - 22.00 น.
โทรศัพท์: 042 - 821046, 089 - 0094345
จุ่มนัวยายพัด
จุ่มนัวยายพัด เป็นร้านอาหารขึ้นชื่อแห่งหนึ่งในเชียงคาน ตั้งอยู่บริเวณถนนคนเดินเชียงคาน (ถนนริมโขง) ซอย 10 จุ่มนัวเป็นอาหารพื้นเมือง ที่มีลักษณะคล้ายสุกี้ที่สามารถเลือกเส้นที่ชอบได้ตามใจ เป็นเมนูพิเศษที่สืบทอดกันมากว่า 70 ปี มีให้ชิมที่เชียงคานและโดยเฉพาะที่ร้านจุ่มนัวยายพัดเพียงที่เดียวเท่านั้น
วันและเวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 7.30 – 15.00 น.
โทรศัพท์: 042-822079
ข้าวปุ้นน้ำแจ่ว ป้าบัวหวาน
มาเชียงคาน ต้องลองกินข้าวปุ้นเชียงคานด้วย ร้านข้าวปุ้นน้ำแจ่ว เป็นร้านอาหารเล็กๆ ในซอยศรีเชียงคาน 14 (บน) ที่ขายเมนูท้องถิ่นฉบับดั้งเดิม ข้าวปุ้นน้ำแจ่วเป็นอาหารเฉพาะถิ่นคล้ายก๋วยเตี๋ยวน้ำใส แต่ใช้เส้นขนมจีนแทน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มแจ่วรสจัดจ้าน หากอยากสั่งเมนูอื่นอย่างเกาเหลาหรือลวกจิ้มมาเพิ่มด้วยก็ไม่มีปัญหา และแน่นอนว่าหาชิมได้เฉพาะที่นี่เท่านั้น
วันและเวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 7.00 – 13.00 น.
โทรศัพท์: 083-4189809
บ้านติดดิน
คาเฟ่สวยแนวบูติคริมน้ำในเมืองเชียงคาน ที่นี่มีไฮไลท์ตรงที่มีการตกแต่งสวยงาม เรียบง่าย โทนสีเป็นสี earth tone ใช้ไม้เป็นหลัก ทำให้รู้สึกอบอุ่น ถ้ามองจากมุมที่เดินเข้ามาจะเห็นสีพื้นไม้คาเฟ่ตัดกันกับน้ำสีฟ้า สวยสดงดงามเป็นอย่างยิ่ง ที่สำคัญที่ร้านนั้นมีอาหารและขนมคอยบริการ จะบอกว่าขนมเค้กอร่อยละมุนมากๆ ใครที่ได้มีโอกาสแวะไปเชียงคาน อย่างลืมแวะไปที่บ้านติดดินกันด้วยล่ะ
วันและเวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน ยกเว้นวันพุธ ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น.
เบอร์โทรศัพท์: 088-0222999
PUDBOK COFFEE
ถ้าหากกำลังมองหาคาเฟ่เชียงคาน สไตล์วินเทจ ตั้งอยู่ในกลางเชียงคานติดริมน้ำโขงเลย ที่นี่เป็นคาเฟ่ในบ้านไม้ โดยบ้านไม้นั้นมีหลายชั้น คาเฟ่จะตั้งอยู่ชั้นล่างสุด เป็น open air และด้านบนได้ถูกเปิดเป็นที่พักให้คนทั่วไปเข้ามาพักได้ ที่คาเฟ่ PUDBOK COFFEE แห่งนี้ มีทั้งอาหาร เครื่องดื่ม และขนมหวาน ที่ล้วนแต่น่าลิ้มลองอยู่หลายอย่าง สำหรับใครที่ชอบคาเฟ่ที่ให้ฟีลสโลไลฟ์ นั่งทำงานได้เพลินๆ สามารถมองเห็นคนเดินผ่านไปผ่านมา ที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจที่หนึ่งเลย
วันและเวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 7.00 – 13.00 น.
เบอร์โทรศัพท์: 083-4189809
อิสระ คาเฟ่
อิสระตามชื่อ คาเฟ่แห่งนี้เป็นร้านกาแฟเล็กๆ ที่หากคุณมีโอกาสได้เดินเล่นถนนเชียงคาน เชื่อว่าคุณน่าจะมีผ่านร้านอิสระบ้าง ที่มีขนมและเครื่องดื่มให้บริการ ตัวคาเฟ่จะเป็นเรือนไม้ริมน้ำโขง ตามสไตล์เชียงคานเลย ใครที่อยากชมการทำเครื่องดื่ม ชงชา กาแฟ ก็สามารถเลือกนั่งที่บาร์ได้ ตามผนั่งคาเฟ่ก็จะมีรูปถ่ายเก่าๆให้ได้ชมกัน ไฮไลท์อีกอย่างของที่นี่คือ แก้วเครื่องดื่มของร้านจะเป็นแก้วสีขาวที่มีการเขียนตัวหนังสือบนแก้วเอง เก๋ๆไปอีกแบบ ใครได้มีโอกาสไปที่นี่ก็ล้วนแต่ติดใจในความเงียบสงบ เรียบง่าย ชิว สบาย และเพลิดเพลินกับวิวของที่นี่ทั้งนั้น
วันและเวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน ยกเว้นวันพฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น.
เบอร์โทรศัพท์: 086-4783541
Cafe De River
Cafe De River เป็นคาเฟ่สวยริมฝั่งโขง ที่เป็นเหมือนอีกหนึ่งแลนด์มาร์คในเชียงคานเลยก็ว่าได้ เพราะถ่ายรูปสวยทุกมุม! คุณสามารถมองเห็นฝั่งประเทศลาวได้โดยใกล้ ห่างแค่เพียงเอื้อมมือเท่านั้น หลายๆคนมักชอบที่จะมาดูพระอาทิตย์ตกสวยๆที่นี่ แต่จะบอกว่า หากใครจะมานั่งตอนกลางวันทำงาน จิบกาแฟ กินขนม ก็ชิวไปอีกแบบเช่นกัน นอกจากขนมหวานและเครื่องดื่มที่ดีงามแล้ว อาหารยังรสชาติดีมากๆอีกด้วย คาเฟ่แห่งนี้ตั้งอยู่ใน เชียงคานเมาท์เทนวิวรีสอร์ท ที่คนนอกสามารถเข้าไปใช้บริการได้
วันและเวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 – 18.00 น.
เบอร์โทรศัพท์: 061-4536954
เครื่องบิน
การเดินทางโดยเครื่องบิน นับว่าเป็นตัวเลือกในอันดับแรกสำหรับใครที่ไม่ชอบนั่งรถนานๆ หรืออยากจะประหยัดเวลา นำเวลาที่ต้องเสียไปกับการเดินทางนั้นไปเที่ยวดีกว่า แนะนำให้นั่งเครื่องบินไปลง จ.เลย ซึ่งสำหรับใครที่อยู่กรุงเทพฯ ก็สะดวกหน่อย เพราะมีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ - เลย จากนั้นก็สามารถนั่งรถต่อไปยังเชียงคานได้แล้วแต่สะดวก ถ้าเป็นรถขนส่งสาธารณะราคาจะอยู่ประมาณ 80-150 บาท หรือถ้าใครจะเช่ารถขับไปเองก็ได้
รถประจำทาง
แต่ถ้าใครมีเวลาเหลือๆ แต่ไม่อยากจะเสียเวลานั่งรถหลายต่อ แนะนำให้จับจองรถทัวร์นั่งตรงไปลงเชียงคานเลย ก็สะดวกไม่แพ้กัน ซึ่งรถประจำทางนี้ก็มีหลายบริษัทให้เลือกเช่นกัน ราคาก็จะเริ่มต้นอยู่ที่ 400 - 600 บาทขึ้นไป แล้วแต่ประเภทของรถประจำทาง แต่ถ้าใครอยากนั่งสบายๆ แนะนำให้เลือกประเภทรถที่เป็น VIP โดยสามารถขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งหมอชิตใหม่
รถไฟ
ในส่วนของผู้ที่ต้องการเดินทางโดยรถไฟ รถไฟก็มีเส้นทางให้บริการเช่นกัน แต่สำหรับสถานีที่จะไปลงเชียงคาน หรือลงที่ จ.เลย โดยตรงนั้นคงไม่มี หากใครอยากจะสัมผัสความสโลว์ไลฟ์ ก็แนะนำให้นั่งรถไฟไปลงที่ จ.อุดรธานี หรือนั่งไปลง จ.ขอนแก่น จากนั้นต่อรถไปยังเชียงคานก็ได้เช่นกัน สำหรับการเดินทางนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าใครสะดวกแบบไหน ถ้าอยากจะชมวิวธรรมชาติสองข้างทาง การนั่งรถไฟก็เป็นตัวเลือกที่ดีอยู่ไม่น้อย
การเดินทางภายในเชียงคาน ส่วนใหญ่นิยมเช่ารถจักรยาน หรือเช่ารถสกายแล็ปอันเป็นรถประจำท้องถิ่น หากต้องการความสะดวกสบาย หรืออยากเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งอยู่ไกลออกไป โดยราคาขึ้นอยู่กับความพอใจในการตกลงร่วมกัน และที่นิยมที่สุดก็คือ การขับรถยนต์เที่ยวรอบเชียงคาน ก็จะมีความสะดวกสบาย เที่ยวได้แบบสะดวก และ Flexible มากๆ
- ตักบาตรข้าวเหนียว
มาเชียงคานแล้วจะพลาดไม่ได้กับกิจกรรมนี้! นี่คืออีกหนึ่งประเพณีที่ชาวเชียงคานได้สืบทอดมาเป็นเวลาช้านาน และก็ยังคงปฎิบัติกันจนถึงทุกวันนี้ก็คือการ ‘ตักบาตรข้าวเหนียว’ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่คุ้มค่ามากหากแลกกับการต้องตื่นแต่เช้าตรู่ เพราะคุณจะได้ตักบาตรข้าวเหนียวด้วยตัวเอง และเห็นถึงวิถีชีวิตของชาวเชียงคานให้ยามเช้า
- ปั่นจักรยาน เล่นเล่นในเมืองเชียงคาน
อีหนึ่งกิจกรรมที่ห้ามพลาดเลยคือการเดิรนเล่นในเมืองเชียงคาน ริมแม่น้ำโข่ง รอบๆข้างทางจะมีร้านอาหาร ร้านนวด คาเฟ่ และร้านขายของท้องถิ่น ของฝากที่น่ารักมากๆ โดยส่วนมากทำโดยคนท้องถิ่นเอง เหมาะอย่างยิ่งที่จะซื้อเป็นของฝาก ที่สำคัญราคาของแต่ละชิ้นก็ไม่แพงเลย ยังไงก็อย่าลืมไปอุดหนุนชาวเชียงคานด้วยนะคะ นอกจากนั้นในซอยถนนเชียงคานส่วนมากจะเป็น one way ถ้าเอารถยนต์เข้าไป อย่าลืมสังเกตดูสัญลักษณ์ป้ายดีๆก่อนล่ะ
จำนวนที่พักทั้งหมด | 104 แห่ง |
โรงแรมยอดนิยม | Chiangkhan River Mountain Resort, River Tree Resort Chiangkhan |
แลนด์มาร์คยอดนิยม | บ้านติดดิน เชียงคาน Baan Tid din, ถนนคนเดินเชียงคาน |
เมื่อจองโรงแรม & ที่พักบนแอป Traveloka จะได้รับส่วนลดพิเศษมากมายและนอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นแคมเปญหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น EPIC Sale, National Travel Day และอื่นๆ อีกมากมาย