สกลนคร ตั้งอยู่ในภาคอีสานตอนบน ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 647 กิโลเมตร เดิมชื่อ ‘เมืองหนองหานหลวง’ ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งแหล่งธรรมะที่มีศาสนสถานมากมาย รวมถึงมีตำนานพระเกจิอาจารย์ชื่อดังซึ่งเป็นที่เคารพนับถือหลายรูป อาทิ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต, พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร และหลวงปู่เทสก์ เทสก์รังสี เป็นต้น มีหลักฐานทางโบราณคดีที่เชื่อได้ว่าบริเวณนี้น่าจะเป็นชุมชนมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ โดยอาจจะอยู่ในยุคเดียวกันกับอารยธรรมบ้านเชียง และประมาณพุทธศตวรรษที่ 16 ขุนขอมราชบุตรเจ้าเมืองอินทปัฐนคร ได้ทำการอพยพครอบครัวและบ่าวไพร่มาตั้งรกรากอยู่ในบริเวณแถบนี้จนเกิดเป็นเมืองใหญ่ชื่อว่าเมืองหนองหานหลวง อยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรขอม ในภายหลังได้เกิดภัยแล้งจนผู้คนอพยพออกไปกลายเป็นดินแดนร้าง จนได้กลับมามีฐานะเป็นเมืองใหม่อีกครั้งภายใต้อิทธิพลการปกครองของล้านช้างในยุคพุทธศตวรรษที่ 19 และอาณาจักรกรุงศรีอยุธยาในยุคต่อมา จนถึงยุครัตนโกสินทร์ รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 จึงมีการเปลี่ยนชื่อมาเป็นเมืองสกลนคร และใช้ชื่อนี้มาจนถึงปัจจุบัน
จังหวัดสกลนครมีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติเป็นอย่างมาก จนได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 5 ของจังหวัดที่เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารหลักของภาคอีสาน มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูงสลับกับที่ราบลุ่มลอนคลื่น พื้นที่ทางทิศใต้เป็นแอ่งกระทะขนาดใหญ่เรียกว่าแอ่งสกลนคร มีจุดต่ำสุดของแอ่งนี้อยู่ในบริเวณทะเลสาบหนองหาน สกลนครเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติถึง 3 แห่ง และมีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญทางศาสนามากมาย รวมถึงยังเป็นที่ตั้งของพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์อีกด้วย นอกจากนั้นยังมีประเพณีที่สำคัญอีกหลายงาน โดยเฉพาะประเพณีที่มีชื่อเสียงไปทั่วประเทศอย่างประเพณีแห่ปราสาทผึ้ง และประเพณีแห่ดาวเทศกาลคริสต์มาส ของชุมชนคริสต์ศาสนิกชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ณ อำเภอท่าแร่ ซึ่งทั้งสองงานจะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลไปชมกันเป็นจำนวนมากในแต่ละปี ทั้งหมดนี้ทำให้สกลนครกลายเป็นเมืองรองที่น่าสนใจและไม่ควรพลาดในการหาโอกาสไปเยือนให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต
ที่พักในสกลนครส่วนใหญ่ จะเป็นรูปแบบโรงแรมในท้องถิ่นที่มีขนาดกลางและขนาดกะทัดรัด แต่ยังคงไว้ซึ่งความสะดวกสบายอย่างครบครัน ในขณะที่รีสอร์ทส่วนใหญ่มาในรูปแบบสบายๆ ให้ความรู้สึกเป็นกันเอง ทั้งโรงแรมและรีสอร์ทมีให้เลือกในหลากหลายรูปแบบตั้งแต่กลิ่นอายแบบไทยประยุกต์ไปจนถึงแบบทันสมัยดีไซน์สวย แต่มักจะอยู่ในเขตตัวเมืองเป็นส่วนใหญ่ โดยอาจมีกระจายตัวอยู่บ้างในบริเวณใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอื่นๆ ข้อดีที่น่าสนใจในการเลือกที่พักในสกลนครก็คือ ที่พักส่วนใหญ่มักจะมีราคาไม่แพงมากเมื่อเทียบกับความสะดวกสบาย ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเลือกพักในสถานที่ที่ถูกใจได้ในงบประมาณซึ่งจัดเตรียมไว้ จึงนับว่าสกลนครเป็นอีกเมืองที่คุ้มค่าและสามารถเดินทางไปพักผ่อนได้ โดยไม่ต้องใช้เวลานานหรือไม่ต้องห่วงว่างบประมาณจะบานปลาย และหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังสนใจจะมองหาที่พักในสกลนครอยู่ เราขอแนะนำตัวเลือกดีๆ เอาไว้ให้คุณได้นำไปใช้ประกอบการพิจารณา อาทิ เอ็มที เพลส สกลนคร และ นาคปุระ รีสอร์ท เป็นต้น
สะดวกสบายและง่ายต่อการเดินทาง เพราะนี่คือที่พักในสกลนครที่อยู่ใกล้กับสนามบินเพียงประมาณ 6 กิโลเมตรเท่านั้น บรรยากาศโดยรวมในบริเวณที่พักเน้นกลิ่นอายแบบไทยๆ มีบริการห้องอาหารและร้านกาแฟในตัวโรงแรม ห้องพักกว้างขวางและมีให้เลือกพักหลากหลายตามความต้องการ ทุกห้องมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสบายที่ค่อนข้างครบครัน รอบด้านมีร้านอาหาร ร้านค้า และซูเปอร์มาร์เก็ตอยู่ในบริเวณใกล้เคียง
คลิกจองที่พัก >>
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งที่พักในสกลนครที่ค่อนข้างจะตั้งอยู่ในทำเลที่ง่ายดายในการเดินทาง เพราะอยู่ห่างจากสนามบินเพียงแค่ไม่ถึง 2 กิโลเมตร ตัวที่พักเป็นโรงแรมขนาดกะทัดรัดที่ตกแต่งด้วยสีขาวเป็นหลักใหญ่ ให้ความรู้สึกสบายและผ่อนคลาย สะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันเพราะมีอุปกรณ์เครื่องใช้ให้ครบครัน ตัวโรงแรมอยู่ใกล้กับถนนใหญ่และมีตลาดอยู่ในบริเวณใกล้เคียง จึงสะดวกในการเดินทางและง่ายต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
คลิกจองที่พัก >>
อีกหนึ่งที่พักในสกลนครที่มาในรูปแบบสบายๆ และให้บริการสุดสะดวก ด้วยมาตรฐานการบริการของโรงแรมฮ็อปอินที่นักเดินทางต่างเชื่อถือและไว้วางใจ ตัวที่พักเป็นแบบเรียบง่าย มีที่จอดรถกว้างขวางไว้คอยให้บริการ ห้องพักเป็นแบบเรียบง่ายเน้นข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวันค่อนข้างครบครัน แบ่งฟังก์ชั่นการใช้งานในห้องได้อย่างเป็นสัดส่วน ตั้งอยู่ไม่ไกลจากแหล่งชุมชนจึงเดินทางไม่ยาก และไม่ไกลมากจากสนามบินสกลนคร
คลิกจองที่พัก >>
สำหรับใครที่ชอบการได้พักในบรรยากาศผ่อนคลายสไตล์บ้านสวน นี่คืออีกหนึ่งที่พักในสกลนครที่น่าจะถูกใจคุณ ด้วยสไตล์บ้านไม้หลังเล็กท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นของต้นไม้ และพื้นที่สนามหญ้ากว้างให้ได้เดินเล่นยืดเส้นยืดสายกับแบบสบายๆ มีพื้นที่นั่งเล่นในหลายบรรยากาศและหลายมุมทั่วบริเวณ ตัวห้องพักมาในรูปแบบเรียบง่ายและใกล้ชิดกับธรรมชาติ ภายในที่พักมีร้านกาแฟและห้องอาหารเปิดให้บริการ ให้บรรยากาศสงบสบายทั้งที่ไม่ไกลจากแหล่งชุมชน
คลิกจองที่พัก >>
หากคุณกำลังมองหาที่พักในเมืองสกลนครที่ให้ความรู้สึกค่อนข้างสบายและเป็นส่วนตัว ห่างไกลจากความพลุกพล่านในแหล่งชุมชน ลองเก็บที่นี่ไว้เป็นหนึ่งตัวเลือกในการพิจารณา บรรยากาศในบริเวณรีสอร์ทมาในรูปแบบน่ารักและให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เน้นการใช้สีขาวและบ้านไม้รูปทรงคันทรีตกแต่งด้วยดีเทลสุดน่ารักและสีสันสดใสในสไตล์พาสเทล ทุกหลังตั้งอยู่ห่างกันจึงให้ความเป็นส่วนตัว ห้องพักตกแต่งน่ารักและมีให้เลือกหลายรูปแบบ มาพร้อมอุปกรณ์เครื่องใช้ที่ค่อนข้างครบครัน
คลิกจองที่พัก >>
ถ้าอยากได้บรรยากาศสุดสงบ ห่างไกลจากความพลุกพล่านวุ่นวายในตัวเมือง นี่คือที่พักในสกลนครที่คุณอาจชอบใจ ตัวที่พักตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่กว้างค่อนข้างห่างจากเขตชุมชน มีพื้นที่ให้เดินเล่นสำหรับคนชอบออกกำลังกายแบบสบายๆ ตัวบ้านพักเป็นบ้านหลังเดี่ยวที่สร้างแบบมีระยะห่างระหว่างกันจึงให้บรรยากาศเป็นส่วนตัวไม่แออัด ห้องพักกว้างขวางมาพร้อมข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันค่อนข้างครบครัน มีร้านค้าเปิดให้บริการในที่พักจึงค่อนข้างสะดวกสบาย
คลิกจองที่พัก >>
ใครที่กำลังมองหาที่พักกลางเมืองสกลนคร นี่คือเซอร์วิสอพาร์ทเม้นต์ที่อาจจะตอบโจทย์ความต้องการของคุณ ตัวที่พักมาพร้อมบริเวณจอดรถสะดวกสบาย อยู่ไกลจากสนามบินสกลนครเพียงไม่ถึง 5 กิโลเมตร ตัวที่พักตกแต่งอย่างเรียบง่าย เน้นข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน เดินทางไม่ยาก และนับเป็นอีกหนึ่งที่พักราคาสบายกระเป๋าที่น่าสนใจ
คลิกจองที่พัก >>
นี่คือที่พักในสกลนครที่เป็นรูปแบบกึ่งโรงแรมกึ่งเซอร์วิส อพาร์ทเม้นต์ ที่ให้อารมณ์ทันสมัยสวยงาม อยู่ห่างจากตัวสถาบันราชภัฏฯ เพียงไม่ถึง 1 กิโลเมตรเท่านั้น ห้องพักกว้างขวางตกแต่งอย่างเรียบง่ายเน้นฟังก์ชั่นการใช้งานที่สะดวกสบาย มาพร้อมอุปกรณ์และข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันที่ค่อนข้างครบครัน
คลิกจองที่พัก >>
ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง ใจกลางชุมชนบริเวณถนนเจริญเมือง ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าสร้างขึ้นในสมัยใด วัดนี้เป็นปูชนียสถานเก่าแก่ที่สำคัญและอยู่คู่บ้านคู่เมืองสกลนครมาเนิ่นนาน ด้านในตัววิหารเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อองค์แสน ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนให้ความเคารพนับถือและศรัทธา องค์พระธาตุเชิงชุมสร้างหันหน้าไปทางหนองหาน เป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูนทรงสี่เหลี่ยม สูงราว 24 เมตร ส่วนบนเป็นทรงบัวเหลี่ยมไม่มีลวดลายประดับ ยอดฉัตรที่อยู่เหนือองค์พระธาตุสร้างจากทองคำบริสุทธิ์น้ำหนัก 247 บาท ด้านล่างองค์พระธาตุมีซุ้มประตู 4 ด้าน แต่มีเพียงด้านเดียวที่เป็นประตูเข้าออกได้จริงคือทางทิศตะวันออก ว่ากันว่าตัวพระธาตุสร้างครอบรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าถึง 4 พระองค์ ตั้งแต่พระกกุสันทะ พระโกนาคม พระกัสสะปะ และพระโคดม ว่ากันว่าการได้มากราบนมัสการองค์พระธาตุเชิงชุมและหลวงพ่อองค์แสนนั้น จะก่อให้เกิดอานิสงส์ในด้านความเป็นสิริมงคล เจริญรุ่งเรือง แคล้วคลาดปราศจากอันตราย และยังส่งผลให้เกิดโชคลาภมีเงินทองเป็นหมื่นเป็นแสน มีความมั่งมีศรีสุขเกิดขึ้นในชีวิต โดยจะมีการจัดงานประจำปี ณ วัดพระธาตุเชิงชุม เป็นประจำตั้งแต่วันขึ้น 9 ค่ำ ถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือนยี่ (2) ของทุกปี ซึ่งจะมีผู้คนหลั่งไหลมาร่วมงานนี้กันอย่างคับคั่งมากมาย และหากคุณสนใจอยากได้ที่พักในบริเวณใกล้กับวัดพระธาตุเชิงชุม เราขอนำเสนอ
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 – 18.00 น.
ห่างจากตัวจังหวัดสกลนครประมาณ 22 กิโลเมตร เป็นโบราณสถานขนาดใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่ ณ วัดพระธาตุภูเพ็ก บนเทือกเขาภูพาน โดยมีบันไดหินก่อปูนความสูงราวๆ 491 ขั้นจากบริเวณตัววัดขึ้นไปยังยอดเขา เพื่อกราบนมัสการองค์พระธาตุหรือตัวปราสาทที่มีลักษณะเป็นปราสาทขอมขนาดใหญ่ สร้างด้วยหินทราย ด้านหน้ามีหินเรียงซ้อนกันลักษณะคล้ายกากบาท เรียกว่าโคปุระ ตัวปราสาทกว้างด้านละ 11 เมตร หันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีการสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในยุคเดียวกับพระธาตุนารายณ์เจงเวง ซึ่งมีตำนานการสร้างควบคู่กันปรากฏในตำนานพระอุรังคธาตุหรือตำนานพระธาตุพนมนั่นเอง โดยในตำนานกล่าวว่าพระธาตุภูเพ็กและพระธาตุนารายณ์เจงเวงนั้น เกิดจากการแข่งขันกัน โดยมีการกำหนดให้ชาวเมืองฝ่ายหญิงเป็นผู้สร้างพระธาตุนารายณ์เจงเวง และฝ่ายชายสร้างพระธาตุภูเพ็ก หากใครสร้างได้เสร็จก่อนก็จะได้พระอุรังคธาตุของพระพุทธเจ้าไปไว้บูชา โดยมีกติกาว่าหากเห็นดาวเพ็กหรือดาวพระศุกร์ขึ้นบนฟ้าเมื่อไร ทั้งสองฝ่ายต้องวางมือจากการก่อสร้างทันที ปรากฏว่าฝ่ายหญิงได้สร้างเสร็จก่อน จากนั้นจึงทำอุบายจุดไฟหลอกให้ทางฝ่ายชายเข้าใจว่าดาวเพ็กขึ้นแล้วจึงหยุดการสร้าง ซึ่งทำให้องค์พระธาตุภูเพ็กมีโครงสร้างซึ่งไม่เสร็จสมบูรณ์ โดยขาดในส่วนของหลังคาและยอดปราสาทมาจนถึงในปัจจุบัน แต่เป็นเพียงในตำนานเท่านั้น ซึ่งความจริงไม่ปรากฏหลักฐานอย่างเป็นรูปธรรมว่าเหตุใดพระธาตุภูเพ็กจึงไม่ได้รับการสร้างให้เสร็จสมบูรณ์ และหากคุณกำลังมองหาที่พักซึ่งอยู่ไม่ไกลจากพระธาตุภูเพ็ก เรามีตัวอย่างที่พักน่าสนใจมาแนะนำไว้ให้คุณพิจารณา อาทิ
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 – 18.00 น.
เป็นอุทยานแห่งชาติที่ครอบคลุมพื้นที่ 2 จังหวัด คือสกลนครและกาฬสินธุ์ ในช่วงยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 บริเวณนี้ถูกใช้เป็นที่สะสมอาวุธเพื่อใช้ต่อต้านการรุกรานของกองทัพญี่ปุ่น เนื่องจากมีพื้นที่ป่าไม้ที่หนาแน่นและอุดมสมบูรณ์มาก กินพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 415,439 ไร่ ภายในพื้นที่เขตอุทยานประกอบไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติจำพวกถ้ำ ผา และน้ำตกมากมาย โดยจะสามารถพบพื้นที่ป่าได้ถึง 3 ประเภทในพื้นที่อุทยานนี้ ได้แก่ ป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ และป่าดิบแล้ง ซึ่งบริเวณพื้นที่อุทยานนี้เอง กลายเป็นแหล่งต้นนำลำธารที่สำคัญหลายสายของสกลนครและจังหวัดใกล้เคียง โดยในผืนป่าประกอบด้วยพืชพรรณต่างๆ มากมาย รวมถึงสัตว์ป่าหลากหลายสายพันธุ์กว่า 162 ชนิด โดยในพื้นที่อุทยานฯ มีสถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆ หลายแห่ง ตัวอย่างเช่น ผานางเมิน ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 300 เมตร และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามที่สุดของอุทยานฯ แห่งนี้ นอกจากนั้นยังมี น้ำตกปรีชาสุขสันต์ น้ำตกคำหอม ถ้ำเสรีไทย พระธาตุภูเพ็ก นอกจากนั้น ยังมีโค้งปิ้งงู ซึ่งเป็นถนนลาดยางที่มีเส้นทางคดเคี้ยวไปมาบนไหล่เขา มีเอกลักษณ์แปลกตาจนได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในถนนที่สวยที่สุดในประเทศไทย และถนนเส้นนี้ยังเป็นที่ตั้งของพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์อีกด้วย และหากคุณกำลังมองหาที่พักซึ่งอยู่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติภูพานแห่งนี้อยู่ เราขอนำเสนอตัวอย่างที่พักน่าสนใจเพื่อให้คุณไว้ใช้ประกอบการพิจารณา อาทิ
อัตราค่าบริการ ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท
ตั้งอยู่บนเทือกเขาภูพาน ตำบลดงมะไฟ อำเภอเมือง ห่างจากตัวจังหวัดสกลนครประมาณ 17 กิโลเมตร เป็นวัดเก่าแก่อีกหนึ่งวัดในสกลนคร และเคยเป็นที่จำพรรษาของพระเกจิอาจารย์ชื่อดังทางภาคอีสานหลายรูป อาทิ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เป็นต้น ตัววัดตั้งอยู่บนภูเขาสูง แวดล้อมด้วยธรรมชาติของป่าไม้เขียวขจี และมีจุดเด่นคือมีผาหินอยู่ในบริเวณนี้หลายจุด ซึ่งได้มีการแกะสลักงานพุทธศิลป์หลายชิ้นลงบนแผ่นหินในบริเวณรอบๆ พื้นที่วัด อาทิ พระพุทธรูปประจำวันเกิดในปางต่างๆ พระพุทธสีหไสยาสน์องค์ใหญ่ ขนาดกว้าง 8 เมตร ยาว 19 เมตร อยู่บริเวณกลางลานโล่งกว้างเป็นจุดเด่นสะดุดตา และบริเวณโดยรอบยังมีผาหินซึ่งได้รับการแกะสลักเป็นรูปพญาครุฑเวสสุวรรณ ภาพพุทธประวัติ และภาพพระอริยสงฆ์ในอิริยาบถต่างๆ กัน ภาพรอยพระพุทธบาทจำลอง 4 รอย รวมถึงภาพแกะสลักหินเทพขนาดใหญ่ ซึ่งใกล้กันยังเป็นบริเวณจุดชมวิวซึ่งมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบได้เกือบ 180 องศา นับว่าเป็นวัดที่มีความโดดเด่นสะดุดตา รวบรวมชิ้นงานหินแกะสลักที่น่าอัศจรรย์แบบไม่เหมือนใคร และไม่ควรพลาดการได้ไปเยือนหากมีโอกาสไปถึงเมืองสกลนคร และหากคุณสนใจอยากได้คำแนะนำเรื่องที่พักใกล้กับวัดถ้ำผาแด่นแห่งนี้ เรามีตัวอย่างที่พักดีๆ มานำเสนอ ได้แก่
เปิดบริการทุกวัน จันทร์ - ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 6.00 - 17.00 น. เสาร์ - อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00 – 18.00 น.
ร้านธรรมดาหน้าตาแบบบ้านๆ ในรูปแบบอาคารพาณิชย์ทั่วไป แต่ทีเด็ดอยู่ตรงที่ทั้งร้านขายอยู่เมนูเดียวคือข้าวเกรียบปากหม้อ! ที่แตกแขนงออกไปเป็นข้าวเกรียบปากหม้อหลากหลายรูปแบบไม่มีซ้ำ อร่อย แปลก แตกต่าง แบบสุดครีเอท ชนิดที่เรียกได้ว่าอาจจะหาชิมได้แค่ที่นี่ที่เดียวเท่านั้นในเมืองไทย เมนูน่าสนใจได้แก่ ข้าวเกรียบปากหม้อธรรมดา ข้าวเกรียบปากหม้อไข่ม้วน และข้าวเกรียบปากหม้อไข่พับ
เปิดบริการทุกวัน เว้นวันพุธ ตั้งแต่เวลา 11.00 – 10.00 น.
เบอร์โทรศัพท์ 042 - 713796
นับเป็นหนึ่งร้านอาหารที่เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ที่ใครผ่านไปผ่านมา หรือแม้กระทั่งชาวสกลนครเอง ก็ต้องแวะมาชิม ตั้งอยู่ริมถนนสายหลักใจกลางเมือง ในบรรยากาศเรียบง่ายในห้องปรับอากาศ เน้นเสิร์ฟอาหารไทยในสไตล์พื้นบ้านที่บางเมนูก็หาชิมไม่ได้ง่ายๆ จากที่อื่น เมนูน่าสนใจได้แก่ ปลาโจกนึ่งแจ่ง แกงหวาย และแกงจืดทะเล
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.30 – 21.30 น.
เบอร์โทรศัพท์ 042 - 733428, 080 - 4112899
แอบเอาใจสายกินเนื้อกันสักนิด เพราะมาถึงดินแดนแห่งเนื้อวัวโพนยางคำที่ได้รับสมญานามว่าวากิวเมืองไทยทั้งที จะไม่ชิมเลยก็จะถือได้ว่าพลาดกันอย่างแรง ตัวร้านมาในบรรยากาศเปิดโล่งสบายๆ ไม่ใหญ่โต ร้านนี้เสิร์ฟเนื้อโพนยางคำแท้แน่นอน ดูจากชื่อร้านก็รู้ ทีเด็ดคือมีหลากหลายเมนูจากเนื้อให้เลือกชิม ทั้งรสจี๊ดแบบอาหารอีสานแท้ และรสนุ่มในสไตล์อินเตอร์อย่างสเต็กเนื้อที่หลากหลาย ใครไม่กินเนื้อเค้าก็มีเนื้อหมูให้บริการนะ แต่อาจจะไม่หลากหลาย เมนูน่าสนใจได้แก่ เนื้อย่างหรือเสือร้องไห้ สเต็กเนื้อส่วนต่างๆ และต้มยำขาลาย
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 – 20.00 น.
เบอร์โทรศัพท์ 081 - 6767946
ปัจจุบันมีเที่ยวบินจากกรุงเทพมหานครไปยังสนามบินสกลนครทุกวันจากหลายสายการบิน ทั้งจากสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเที่ยวบินได้ตามความสะดวกและงบประมาณ
จากกรุงเทพฯ ไปตามทางหลวงหมายเลข 1 ถึงจังหวัดสระบุรี เลี้ยวขวาเข้าถนนมิตรภาพ (ทางหลวงหมายเลข 2) ผ่านจังหวัดนครราชสีมาเลี้ยวแยก เข้าอำเภอบ้านไผ่ เลี้ยวขวาเข้าทางหลวง หมายเลข 23 ผ่านจังหวัดมหาสารคาม ทางหลวงหมายเลข 213 ผ่านจังหวัดกาฬสินธุ์ข้ามเทือกเขาภูพานเข้าสู่จังหวัดสกลนคร เป็นระยะทางประมาณ 647 กิโลเมตร
จากสถานีขนส่งหมอชิต 2 ถนนกำแพงเพชร มีรถโดยสารปรับอากาศของบริษัท ขนส่ง จำกัด และของเอกชนอีกหลายบริษัท เปิดให้บริการรถประจำทางสายกรุงเทพฯ - สกลนคร ทุกวัน วันละหลายเวลา สามารถเลือกได้ตามความสะดวก
เส้นทางรถไฟของการรถไฟแห่งประเทศไทยมีบริการรถไฟออกจากสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ไปยังจังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นสถานีที่สะดวกที่สุดหากต้องการเดินทางไปสกลนคร ซึ่งผู้โดยสารต้องต่อรถรับจ้างหรือรถประจำทางไปยังจังหวัดสกลนคร ซึ่งมีระยะทางห่างออกไปอีกประมาณ 159 กิโลเมตร
ในตัวจังหวัดสกลนครมีรถรับจ้างหลายชนิดไว้ให้บริการ อาทิ รถสามล้อรับจ้าง รถสามล้อเครื่อง รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง รวมถึงรถประจำทางระยะสั้น ซึ่งค่าโดยสารในเส้นทางทั่วไปค่อนข้างตายตัว แต่สามารถติดต่อเหมาเป็นรายวันเพื่อเดินทางท่องเที่ยวได้ตามที่คุณต้องการ ค่าโดยสารขึ้นอยู่ตามความตกลง
ประเพณีแห่ปราสาทผึ้งอาจจะมีให้ดูอีกในบางจังหวัดของประเทศไทย แต่บอกได้เลยว่าถ้าจะดูประเพณีนี้แบบยิ่งใหญ่และสืบทอดกันมาอย่างยาวนานที่สุดต้องยกให้เมืองสกลนคร ซึ่งชาวบ้านแต่ละหมู่บ้านหรือแต่ละพื้นที่ของจังหวัดสกลนครจะร่วมมือร่วมใจกันสร้างปราสาทขนาดใหญ่และงดงามจากขี้ผึ้งเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และในปัจจุบันก็มีการประกวดประขันกันในด้านความงาม ภายในงานจะประกอบด้วยขบวนแห่ที่สวยงาม รวมถึงการละเล่นและงานรื่นเริงมากมาย ประเพณีนี้จะจัดขึ้นในช่วงระหว่างวันขึ้น 12 ค่ำ – 15 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี หรือคือในช่วงวันออกพรรษานั่นเอง
อำเภอท่าแร่ ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งรวมของชุมชนคริสตศาสติกชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และชุมชนละแวกนี้เองที่มีการร่วมแรงร่วมใจกันตกแต่งประดับประดาวัดและบ้านเรือนในชุมชนให้งดงามด้วยการจัดทำดาวและถ้ำพระกุมารเพื่อประดับตกแต่งบริเวณต่างๆ โดยรอบพื้นที่บริเวณหมู่บ้านท่าแร่ซึ่งเป็นชุมชนคาทอลิกเก่าแก่ที่สืบทอดกันมากว่าร้อยปี ซึ่งดาวในคริสตศาสนาหมายถึงการลงมาถือกำเนิดในโลกมนุษย์ขององค์พระเยซูนั่นเอง จากการตกแต่งบ้านเรือนได้รับการพัฒนาให้ยิ่งใหญ่กลายเป็นขบวนรถแห่ติดตั้งดวงไฟสวยงามตระการตา นอกจากนั้น ยังมีพิธีทางศาสนา และมีถนนคนเดินให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมซื้อหาข้าวของเครื่องใช้กันได้อย่างเพลิดเพลิน โดยงานนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 24 ธันวาคมของทุกปี
ใครจะเชื่อว่าเมืองสกลนครมีฟาร์มเมล่อนกับเค้าด้วย! ที่นี่นับเป็นแหล่งเช็คอินแหล่งใหม่ที่เพิ่งเริ่มเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว และแน่นอนมาบุกฟาร์มทั้งที ก็ต้องมีสารพัดเมนูจากเมล่อนสดๆ รสหวานเจี๊ยบให้ได้ชิมกัน รวมถึงอาหารและขนมหวานอีกหลายเมนู ซึ่งใช้วัตถุดิบออแกนิกส์ที่ทางฟาร์มปลูกเองเป็นส่วนประกอบหลัก แถมด้านในยังมีทุ่งนาที่เต็มไปด้วยมุมน่ารักๆ และสะพานไม้ไผ่ยาวเหยียดให้ได้แวะไปเดินเล่นและถ่ายรูปกันอีกด้วย ใครเป็นสายชิลล์รักธรรมชาติห้ามพลาดเชียว
ถนนสายไม่ยาวมากหน้าวัดพระธาตุเชิงชุม จะเปลี่ยนเป็นถนนคนเดินที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ที่ผลิตจากผ้าย้อมคราม ซึ่งถึงเป็นของดีอีกอย่างของเมืองสกลนคร โดยถนนเส้นนี้จะเปิดทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ตั้งแต่เวลาประมาณบ่ายสามโมงถึงสองทุ่ม อย่าลืมแวะไปช้อปของฝากจากเมืองสกลนครติดไม้ติดมือกันกลับมาด้วยนะ
ที่ตำบลกุดเรือคำ อำเภอวานรนิวาส ถือเป็นแหล่งผลิตเกลือสินเธาว์จากแหล่งน้ำใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน โดยยังคงใช้วิธีการดั้งเดิมแบบโบราณในการผลิต นั่นคือสูบน้ำขึ้นมาจากใต้ดิน แล้วค่อยๆ นำมาต้มให้น้ำระเหยไปเหลือไว้แต่เพียงผงเกลือ ซึ่งเค้าเปิดให้เราเข้าไปดูเพื่อประดับความรู้ได้ด้วยนะ ใครชอบการท่องเที่ยวตามแหล่งเรียนรู้ในวิถีชุมชนรับรองว่าน่าจะถูกใจ
จำนวนที่พักทั้งหมด | 62 แห่ง |
เมืองยอดนิยม | อำเภอเมืองสกลนคร, มาย |
โรงแรมยอดนิยม | ซีสตาร์ แอนด์ ฟอร์เรส รีสอร์ท, โรงเเรมโชคดีเพลส |
แลนด์มาร์คยอดนิยม | สนามบินสกลนคร (SNO), ท่าอากาศยานสกลนคร |