สัมภาระติดตัวขึ้นเครื่อง |
---|
7 kg |
เช็คอินภายใน |
---|
1 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง |
สายการบินสกู๊ต (Scoot) เป็นสายการบินราคาประหยัดที่บริการบินระยะไกล มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในสิงคโปร์และเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มพันธมิตรสายการบิน Value Alliance สกู๊ตเสนอห้องโดยสาร 2 ประเภทซึ่ง ได้แก่ ชั้นประหยัดและสกู๊ตบิซ (ScootBiz) ซึ่งมีเที่ยวบินให้บริการไปยัง 60 จุดหมายปลายทางใน 17 ประเทศทั่วโลก สกู๊ต ได้รับรางวัลจาก Skytrax ให้เป็นสายการบินราคาประหยัดที่ดีที่สุดในโลก
สายการบินสกู๊ต (Scoot) เป็นสายการบินราคาประหยัดที่บริการบินระยะไกล มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในสิงคโปร์และเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มพันธมิตรสายการบิน Value Alliance สกู๊ตเสนอห้องโดยสาร 2 ประเภทซึ่ง ได้แก่ ชั้นประหยัดและสกู๊ตบิซ (ScootBiz) ซึ่งมีเที่ยวบินให้บริการไปยัง 60 จุดหมายปลายทางใน 17 ประเทศทั่วโลก สกู๊ต ได้รับรางวัลจาก Skytrax ให้เป็นสายการบินราคาประหยัดที่ดีที่สุดในโลก
สกู๊ต มีห้องโดยสารที่กว้างขวางเพื่อให้ผู้โดยสารรู้สึกสะดวกสบายแม้ว่าจะมีระยะการบินที่ไกล สายการบินนี้ประกอบด้วยเครื่องบินแอร์บัส 320 และโบอิ้ง 787 Dreamliners ในห้องโดยสารชั้นประหยัด แต่ละที่นั่งมีความกว้าง 18 นิ้วและที่ว่างระหว่างแถวมีขนาด 31 นิ้ว (โบอิ้ง 787 Dreamliner) หรือกว้าง 20.5 นิ้ว และที่ว่างระหว่างแถวมีขนาด 28 นิ้ว (แอร์บัส 320) ผู้โดยสารยังสามารถอัปเกรดที่นั่งเป็น Super Seats ซึ่งมีพื้นที่วางขาเพิ่มขึ้น 30% นอกจากนี้ ยังมีบริการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตบนเครื่องบินเพื่อที่คุณจะไม่พลาดทุกการเชื่อมต่อ
หมดกังวลเรื่องความหิวบนเที่ยวบินไปได้เลย เพราะ สกู๊ตให้บริการอาหารคุณภาพสูงที่คัดสรรมาทั้งอาหารร้อน อาหารว่างและชุดอาหารมื้อใหญ่ คุณสามารถสั่งอาหารได้ทั้งก่อนหรือระหว่างบินยกเว้นอาหารพรีเมียมที่คัดสรรพิเศษของ สกู๊ต ซึ่งต้องสั่งจองล่วงหน้า
ผู้โดยสารที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การบินที่เหนือกว่า แต่ยังคงเพลิดเพลินไปกับราคาที่ประหยัด สกู๊ต ยังมีบริการชั้นธุรกิจที่เรียกว่า ScootBiz แต่ละที่นั่งกว้าง 22 นิ้วพร้อมพื้นที่วางขาขนาด 38 นิ้วและหมอนรองศีรษะกับที่วางขาปรับระดับได้ ที่นั่งยังติดตั้งระบบไฟฟ้าสำหรับอุปกรณ์ ของผู้โดยสารทำให้สามารถชาร์จได้ตลอดการเดินทาง นอกจากนี้ผู้โดยสารยังสามารถเพลิดเพลินกับความบันเทิงบนเครื่องบินผ่านทาง ScooTV
ผู้โดยสาร ScootBiz ทุกท่านจะได้รับอาหารพรีเมียมฟรีระหว่างการเดินทาง อาหารพรีเมี่ยมมาพร้อมกับอาหารดีลักซ์จานหลัก 1 อย่าง เครื่องเคียง 2 อย่างและเครื่องดื่ม เมนูจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับจุดหมายปลายทางของเที่ยวบิน ซึ่งแต่ละเมนูปรุงขึ้นมาด้วยส่วนผสมที่ดีที่สุดเท่านั้น
เพื่อตอบแทนผู้โดยสารที่ใช้บริการสกู๊ตเสมอ สกู๊ต ร่วมมือกับ KrisFlyer ออกโปรแกรม Singapore Airline’s frequent flyer เพื่อให้การบินกับสกู๊ตเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น ในฐานะสมาชิกของ KrisFlyer ผู้โดยสารสามารถรับไมล์สะสมได้เมื่อบินกับสกู๊ตและสายการบินพันธมิตรกว่า 30 สายการบิน ซึ่งรวมถึง สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ (Singapore Airlines) และซิลค์แอร์ (SilkAir) ตลอดจนเมื่อใช้บริการจากพันธมิตรระดับโลกต่างๆ กว่า 170 บริษัท ซึ่งรวมถึงบัตรเครดิต โรงแรม บริษัทท่องเที่ยวและบริษัทค้าปลีกต่างๆ ผู้โดยสารสามารถแลกไมล์สะสมสำหรับบัตรกำนัลเดินทาง สกู๊ต ซึ่งสามารถใช้ซื้อตั๋วเครื่องบินหรือบริการเสริมได้
สกู๊ต ให้บริการห้องรับรองพิเศษที่สนามบินซึ่งสามารถเข้าถึงได้โดยการซื้อ Scoot-in-Style ซึ่งเป็นแพ็กเกจพิเศษของสายการบินสกู๊ต โดยมุ่งหวังให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ผู้โดยสารสามารถนั่งพักผ่อนและเพลิดเพลินกับอาหารว่างทานเล่นแสนอร่อย เครื่องดื่มที่ช่วยทำให้สดชื่น ห้องอาบน้ำและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ บนห้องรับรองผู้โดยสารขาออก ห้องรับรองผู้โดยสารในสนามบินของ สกู๊ต ตั้งอยู่ที่ SATS Premier Lounge Departure Transit Hall ซึ่งตั้งอยู่ในอาคาร 2 ชั้น 3 สนามบินชางงี
ผู้โดยสารที่มีบัตรผ่านขึ้นเครื่องของ ไทเกอร์แอร์ จะได้รับสิทธิประโยชน์ดีๆ จากร้านค้าท้องถิ่นในประเทศที่หมายที่ต้องการเดินทางไป ซึ่งได้แก่ ฮ่องกง มาเก๊า มาเลเซีย มัลดีฟส์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไต้หวัน และเวียดนาม สิทธิพิเศษจากบัตรผ่านขึ้นเครื่องนี้ จะมอบประสบการณ์ช้อปปิ้งและรับประทานอาหารที่ดีที่สุดให้ผู้โดยสารทุกคนในราคาที่ย่อมเยา
ไม่มีให้บริการ
ไม่มีให้บริการ
ไม่มีให้บริการ(เฉพาะบางที่นั่ง)
ไม่มีให้บริการ
มีให้บริการ
ไม่มีให้บริการ (เฉพาะบางที่นั่ง)
หลังจากการควบรวมกิจการของ สกู๊ต กับไทเกอร์แอร์ ได้มีการจัดทำเครื่องแบบพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินชุดใหม่ขึ้น การออกแบบใหม่บ่งบอกถึงรูปลักษณ์ที่แตกต่าง โดดเด่น และไม่เหมือนใคร ด้วยด้วยสีดำและสีเหลืองเป็น 2 สีหลัก เครื่องแบบพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินหญิงให้เน้นความเงางามผ่านการออกแบบชุดแนวโค้งตามลำตัวเอียงไปทางด้านขวา และตัวกระโปรงเป็นทรงเอวสูงขึ้น ในขณะที่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินชายสวมเสื้อเชิ้ตที่มีสีเหลืองตรงไหล่ แขน และกระดุมเสื้อ
เส้นทางการบิน | ชั้นโดยสาร | สัมภาระติดตัวขึ้นเครื่อง | สัมภาระใต้ท้องเครื่อง |
เส้นทางทั้งหมด | ที่นั่งชั้นประหยัด | 2 ชิ้น (สูงสุด 10 กก./ชิ้น) (ขนาด: 54 x 38 x 23 ซม.) | หากต้องการซื้อเพิ่ม: 20 กก. / 25 กก. / 30 กก. / 35 กก. / 40 กก. |
ที่นั่ง ScootBiz | 2 ชิ้น (สูงสุด 15 กก.) (ขนาด: 54 x 38 x 23 ซม.) | 2 ชิ้น (สูงสุด 30 กก./ชิ้น) |
คุณสามารถตรวจสอบเวลาเช็คอินของเที่ยวบินของ สายการบินสกู๊ต ไทเกอร์แอร์ ได้ที่ตารางด้านล่างนี้ ทั้งนี้เวลาเช็คอินอาจแตกต่างจากรายละเอียดที่แสดงได้ หากเที่ยวบินมีการปฏิบัติการโดย สายการบินสกู๊ต พันธมิตรอื่น เพื่อความแน่ใจ กรุณาตรวจสอบรายละเอียดบนตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ของคุณ
เส้นทางการบิน | เวลาเช็คอินที่แนะนำ | เช็คอินภายใน |
เส้นทางทั้งหมด | 3 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง | 1 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง |
คุณสามารถเช็คอินออนไลน์ได้ เพียงทำตามขั้นตอนด้านล่างนี้:
โดยทั่วไป สามารถคืนเงินเนื่องจากเหตุผลส่วนตัว (การยกเลิกด้วยตนเอง การเจ็บป่วย การตั้งครรภ์ หรือการเสียชีวิตของผู้โดยสาร) การยกเลิกเที่ยวบิน/เปลี่ยนตารางบินโดยสารการบิน เหตุสุดวิสัย หรือการจองซ้ำ ทั้งนี้เงื่อนไขในการยอมรับเหตุผลในการขอคืนเงินอาจแตกต่างกันตามแต่ละ สายการบินสกู๊ต กรุณาตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ไทเกอร์แอร์ ข้อกำหนดและเงื่อนไขการคืนเงินของ ไทเกอร์แอร์
คุณสามารถเปลี่ยนเที่ยวบิน หรือแก้ไขแผนการเดินทางได้ง่ายๆผ่านฟีเจอร์ Easy Reschedule ทั้งนี้บาง สายการบินสกู๊ต อาจอนุญาตให้เปลี่ยนแปลง วันเดินทาง เวลา เส้นทางการบิน และ สายการบินสกู๊ต ขณะที่บาง สายการบินสกู๊ต อาจอนุญาตให้เปลี่ยนแปลงเฉพาะวันและเวลาเดินทางเท่านั้น
สามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ข้อกำหนดและเงื่อนไขการเปลี่ยนเที่ยวบินของ ไทเกอร์แอร์ หากเที่ยวบินของคุณไม่สามารถใช้บริการ Easy Reschedule กรุณาติดต่อฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ของ ไทเกอร์แอร์ เพื่อดำเนินการเปลี่ยนตารางบิน
สายการบินสกู๊ต (รหัส IATA: TR) เป็นสายการบินราคาประหยัดของสิงคโปร์ซึ่งเป็นของสายการบินสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ (Singapore Airlines) ผ่าน Budget Aviation Holdings ซึ่งเป็นบริษัทย่อย สำนักงานใหญ่ของสายการบินนี้ตั้งอยู่ที่อาคารผู้โดยสาร 3 สนามบินชางงี เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2012 สายการบินสกู๊ต เปิดตัวเที่ยวบินแรกที่เดินทางในเส้นทางระยะกลางและระยะไกลจากสิงคโปร์ไปยังประเทศจีนและอินเดีย ต่อมาวันที่ 16 พฤษภาคม 2016 สกู๊ตได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ Value Alliance ผู้ให้บริการด้านสายการบินราคาประหยัดที่ใหญ่ที่สุดในโลก สกู๊ต ดำเนินการบินไปยัง 60 จุดหมายทั่วโลกจากศูนย์กลางเดินทางหลักในสิงคโปร์ด้วยสโลแกนที่ว่า “Escape the ordinary” หรือ “หลุดพ้นออกจากความธรรมดา” ถึงแม้สายการบินสกู๊ต จะค่อนข้างใหม่ในอุตสาหกรรมการบิน แต่สายการบินก็ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติอย่างมากมาย สายการบินสกู๊ต ได้รับการยอมรับว่าเป็นสายการบินราคาประหยัดที่ดีที่สุด สายการบินราคาประหยัดที่บินระยะทางไกลได้ดีที่สุดในโลก สายการบินราคาประหยัดที่มีห้องผู้โดยสารพรีเมียมดีที่สุด และสายการบินราคาประหยัดที่มีที่นั่งพรีมี่ยมแบบดีที่สุดจาก Skytrax สายการบินสกู๊ต ยังร่วมมือกับสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์เพื่อจัดหา KrisFlyer ซึ่งเป็นโปรแกรมสะสมไมล์ เพื่อตอบแทนผู้โดยสารที่ใช้บริการบ่อย ผู้โดยสารสามารถลงทะเบียนออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ของสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์เพื่อเข้าร่วมเป็นสมาชิก https://www.singaporeair.com/in_ID/ppsclub-krisflyer/registration-form/ ในฐานะสมาชิกของ KrisFlyer ผู้โดยสารสามารถรับไมล์สะสมเมื่อบินกับสายการบินสกู๊ต และสายการบินพันธมิตรกว่า 30 สายรวมทั้งเมื่อใช้บริการจากพันธมิตรระดับโลกอีกกว่า 170 รายซึ่งรวมทั้ง บัตรเครดิต โรงแรม บริษัทท่องเที่ยวและร้านค้าปลีกต่างๆ คะแนนสะสมสามารถนำมาแลกเป็นบัตรกำนัลการเดินทางของสกู๊ต ซึ่งสามารถใช้ซื้อตั๋วเครื่องบินหรือบริการเสริมได้ สกู๊ต มีห้องโดยสารสองประเภท ได้แก่ ชั้นประหยัด และ ScootBiz (ชั้นธุรกิจ) สายการบินสกู๊ต มีห้องโดยสารที่มีขนาดกว้างเพื่อรับรองว่าผู้โดยสารจะได้รับความสะดวกสบายแม้ว่าจะบินนานขึ้นโดยมีเครื่องบินแอร์บัส 320 และโบอิ้ง 787 Dreamliners ในห้องโดยสารชั้นประหยัด แต่ละที่นั่งมีความกว้าง 18 นิ้วและที่ว่างระหว่างแถวมีขนาด 31 นิ้ว (โบอิ้ง 787 Dreamliner) หรือกว้าง 20.5 นิ้ว และที่ว่างระหว่างแถวมีขนาด 31 นิ้ว ขนาด 28 นิ้ว (แอร์บัส 320) ผู้โดยสารยังสามารถอัปเกรดที่นั่งเป็นแบบ Super Seats ซึ่งมีที่วางขาเพิ่มขึ้น 30% และพนักพิงศีรษะแบบปรับได้ แต่สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการพื้นที่มากยิ่งขึ้นสามารถเลือกใช้ที่นั่งแบบ Stretch Seats ซึ่งเป็นแบบที่กว้างที่สุด ด้วยพื้นที่วางขาที่เพิ่มมากขึ้นถึง 50% จากที่นั่งแบบมาตรฐาน และตั้งอยู่ด้านหน้า ผู้โดยสารสามารถบินได้อย่างสบายใจและได้ออกจากเครื่องบินเป็นคนแรกๆ นอกจากนี้หากพื้นที่วางขายังกว้างไม่เพียงพอ สายการบิน สกู๊ต ยังมีบริการ MaxYourSpace ซึ่งจะช่วยให้ผู้โดยสารสามารถซื้อที่นั่งว่างสองที่ถัดจากที่นั่งของตนเองได้หากมีให้บริการ ในขณะที่ห้องโดยสาร ScootBiz ซึ่งเป็นชั้นธุรกิจ ให้สิ่งอำนวยความสะดวกมากยิ่งขึ้นเพื่อให้ผู้โดยสารเพลิดเพลินในราคาที่ประหยัด ในห้องโดยสารชั้นธุรกิจนี้ ผู้โดยสารสามารถผ่อนคลายบนที่นั่งเบาะหนังนุ่มสบายของสายการบินสกู๊ต พร้อมด้วยพื้นที่วางขากว้างถึง 38 นิ้วและที่นั่งขนาด 22 นิ้วพร้อมพนักพิงศีรษะแบบปรับขนาด 8 นิ้ว มีบริการไฟฟ้าไว้ให้สามารถชาร์จอุปกรณ์ได้ตลอดในเที่ยวบิน ผู้โดยสาร ScootBiz ยังมีสิทธิได้รับสัมภาระโหลดได้ 30 กิโลกรัม ซึ่งมากกว่าผู้โดยสารชั้นประหยัดที่ได้รับอนุญาตสัมภาระเพียง 20 กิโลกรัมเท่านั้น นอกจากนี้ ผู้โดยสารยังมีสิทธิได้รับสัมภาระขึ้นเครื่องบินได้ถึง 15 กิโลกรัมอีกด้วย ผู้โดยสาร ScootBiz ยังได้รับสิทธิพิเศษอย่างการได้เช็คอินและขึ้นเครื่องบินก่อน ดังนั้นผู้โดยสาร ScootBiz จะอยู่เป็นลำดับต้นๆ ของแถวและเป็นอันดับแรกในการลงจากเครื่อง อีกทั้งยังจะได้รับเครื่องดื่มต้อนรับและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มเติมอีกหนึ่งอย่างบนเที่ยวบิน รวมถึงความบันเทิงบนเครื่องบินผ่าน ScooTV ซึ่งสามารถสตรีมไปยังแล็ปท็อป แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟนของผู้โดยสารได้ ความบันเทิงบนเครื่องบินประกอบด้วยภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดและเอเชีย รายการทีวีและอื่นๆ อีกมากมาย ในขณะที่ผู้โดยสาร ScootBiz สามารถเพลิดเพลินกับ ScooTV ได้ฟรีนั้น หากผู้โดยสารชั้นประหยัดที่ต้องการดู ScooTV ต้องซื้อบริการ ScooTVราคา SGD 15 (ประมาณ 375 บาท) หรือผู้โดยสารสามารถเพลิดเพลินกับความบันเทิงบนเครื่องบินได้โดยใช้ WiFi ของสายการบิน สกู๊ต ซึ่งมีทางเลือกสำหรับการเชื่อมต่อ WiFi 5 แบบ โดยมีราคาตั้งแต่ USD 4.99 ถึง 59.99 เหรียญสหรัฐสำหรับ 20MB-500MB ผู้โดยสารสามารถซื้อแพ็กเกจ WiFi นี้ผ่านทาง flyscoot.com ระหว่างทำการจองและไม่น้อยไปกว่า 4 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง ผู้โดยสารที่มีเวลาที่สนามบินสามารถใช้บริการห้องรับรองพิเศษของสนามบินสกู๊ต ซึ่งสามารถเข้าใช้บริการได้ด้วยการซื้อสิทธิพิเศษจากแพ็กเกจ Scoot-In-Style และเพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ผู้โดยสารสามารถผ่อนคลายและเพลิดเพลินกับอาหารว่างแสนอร่อย เครื่องดื่มที่จะช่วยทำให้สดชื่น ห้องอาบน้ำและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ บนห้องรับรองผู้โดยสารพิเศษสำหรับการออกเดินทางขาออก ห้องรับรองผู้โดยสารในสนามบินของสายการบิน สกู๊ต ตั้งอยู่ที่ SATS Premier Lounge Departure Transit Hall อาคาร 2 ชั้น 3 สนามบินชางงี ผู้โดยสารจะต้องเช็คอินซึ่งสามารถทำได้ตั้งแต่สาม (3) ชม. ถึง 60 นาทีก่อนการออกเดินทาง ผู้โดยสารควรมาถึงสนามบินอย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนออกเดินทางเพื่อให้สามารถดำเนินการเช็คอินได้ตามเวลาที่กำหนด สำหรับขั้นตอนการเช็คอินที่ง่ายขึ้น สายการบินสกู๊ต มีวิธีการเช็คอินหลายวิธี สำหรับผู้โดยสาร ถ้าต้องการใช้บริการเคาน์เตอร์เช็คอินของ สกู๊ต ต้องไปที่แถว 10-12 ที่สนามบินสิงคโปร์ชางงี อาคาร 2 เคาน์เตอร์เช็คอินนี้มีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง แต่จะปิดทำการก่อนเวลาเดินทาง 75 นาที อีกวิธีหนึ่งคือผู้โดยสารสามารถเช็คอินออนไลน์ผ่านทาง checkin.flyscoot.com ซึ่งจะสามารถใช้งานได้ตั้งแต่ 72 ชั่วโมงขึ้นไปจนถึงหนึ่ง (1) ชั่วโมงก่อนการออกเดินทาง
การเดินทางของสายการบิน สกู๊ต เริ่มขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2011 เมื่อสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ประกาศความตั้งใจที่จะจัดตั้งสายการบินย่อยราคาประหยัด สำหรับเส้นทางสายการบินระยะกลางและระยะไกล สองเดือนต่อมาในเดือนกรกฎาคม 2011 สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ได้แต่งตั้งแคมป์เบล วิลสันเป็นซีอีโอผู้ก่อตั้ง บริษัท สายการบินใหม่นี้ โดยมีชื่อว่า สกู๊ต และก่อตั้งขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2011 ในปี 2012 มีการประกาศว่ารหัส IATA ของ สกู๊ต จะเปลี่ยนจาก OQ เป็น TZ ต่อมาเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ปี 2012 สกู๊ต เริ่มเที่ยวบินแรกจากสิงคโปร์ไปยังสนามบินซิดนีย์ในประเทศออสเตรเลีย เพียงแปดวันต่อมาเท่านั้น สายการบินก็เริ่มบินสู่โกลด์โคสต์ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่สองของออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2012 มีการประกาศว่า บริษัทแม่ของ สกู๊ต ซึ่งก็คือสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์จะส่งต่อเครื่องบินโบอิ้ง 787-9 Dreamliners จำนวน 20 ลำที่ได้สั่งให้สกู๊ต มาแทนเครื่องบินโบอิ้ง 777-200 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันและเพื่อช่วยในการขยายตัวต่อเนื่องในอนาคต ในปี 2013 สายการบิน สกู๊ต ตัดสินใจที่จะเพิ่มจำนวนเครื่องบินโดยการเพิ่ม โบอิ้ง 777-200 ลำที่ 5 ภายในสิ้นเดือนพฤษภาคมหรือต้นเดือนมิถุนายนเพื่อให้สามารถเพิ่มเส้นทางเครือข่ายได้อีกสองหรือสามเส้นทาง ในเดือนมีนาคม 2013 มีการประกาศว่าสายการบินสกู๊ต จะเปิดให้บริการเที่ยวบินเส้นทางสิงคโปร์ - ไทเป – โซล 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ อย่างไรก็ตามสายการบินสกู๊ต ยังคงขยายเครือข่ายและธุรกิจต่อไปด้วยการสั่งซื้อโบอิ้ง 787-8 Dreamliners อีก 10 ลำและโบอิ้ง 787-9 Dreamliners จำนวน 10 ลำ ในเดือนพฤศจิกายน 2013 สายการบิน สกู๊ต เริ่มให้บริการเที่ยวบินจากสิงคโปร์ไปยังฮ่องกง 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ซึ่งภายในเดือนธันวาคม 2013 จะมีให้บริการทุกวัน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเครือข่ายการบินของสายการบินสกู๊ต ก็ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ในเดือนกันยายน 2014 มีการประกาศว่าสายการบินสกู๊ต จะให้บริการเครื่องบินโบอิ้ง 787-9 เพื่อให้บริการเที่ยวบินไปยังซิดนีย์ เพิร์ธ และฮ่องกง เริ่มตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม 2015 และไปยังกรุงเทพฯ และโกลด์โคสต์ ปลายเดือนเมษายน 2015 ตามด้วยสนามบินนานาชาติเทียนสิน ปินไห่ เสิ่นหยาง และชิงเต่าในเดือนพฤษภาคม 2015 ในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน สายการบิน สกู๊ต ยังประกาศเส้นทางการบินใหม่จากสิงคโปร์ไปเมลเบิร์นโดยใช้เครื่องบิน Boeing 787 ในเดือนธันวาคมปี 2014 สายการบิน สกู๊ต ร่วมกับนกแอร์ได้ประกาศให้บริการการบินระยะไกลแบบใหม่มายังประเทศไทยโดยใช้ชื่อ นกสกู๊ต (NokScoot) โดยนกแอร์มีสัดส่วน 51% ของ นกสกู๊ต ขณะที่สายการบินสกู๊ต ถือหุ้น 49% เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2015 โบอิ้ง 787-9 Dreamliners ของสกู๊ต ได้มาถึง เครื่องบินเริ่มให้บริการเที่ยวบินสำหรับเส้นทางสิงคโปร์ - เพิร์ธ ตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2015 ตามด้วยเส้นทางสิงคโปร์ - ฮ่องกงในวันรุ่งขึ้น ในเดือนตุลาคม 2015 สิงคโปร์แอร์ไลน์ประกาศว่า สกู๊ต จะเข้ามาให้บริการในเส้นทาง สิงคโปร์-เจดดาห์ ที่มีอยู่ผ่านทางดูไบ และเปิดให้บริการโดยตรงระหว่าง สิงคโปร์ และเจดดาห์ สายการบินสกู๊ต ยังคงขยายเครือข่ายการบินด้วยการประกาศความตั้งใจที่จะเริ่มเที่ยวบินไปยังอินเดียอีก 3 เมือง ได้แก่ อัมริตซาร์ เชนไน และชัยปุระ สายการบิน สกู๊ต ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในเดือนพฤษภาคม 2016 เมื่อสายการบินเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับ Value Alliance ซึ่งเป็นพันธมิตรสายการบินราคาประหยัดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในเดือนเดียวกันนี้เอง สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ ยังจัดตั้ง บริษัทย่อย Budget Aviation Holdings ซึ่งเป็น บริษัทถือหุ้นเพื่อเป็นเจ้าของและบริหารสายการบินราคาประหยัดเช่น สกู๊ต และ ไทเกอร์แอร์ หลังจากการเพิกถอนหุ้นของไทเกอร์แอร์ ออกจากตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ในเดือนพฤศจิกายนปี 2016 สายการบินสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ (Singapore Airlines) ได้ประกาศการรวมกิจการของไทเกอร์แอร์และสกู๊ต การตัดสินใจครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การเติบโตระยะยาวของสายการบินเพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่ดียิ่งขึ้นแก่ผู้โดยสาร แม้ว่าจะมีการประกาศในเดือนพฤศจิกายน แต่แผนการรวมกิจการของไทเกอร์แอร์และสกู๊ต ก็ได้รับการพัฒนาขึ้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2016 แล้ว เมื่อไทเกอร์แอร์และสกู๊ต เริ่มรวมระบบการจอง กำหนดการบิน การเชื่อมต่อเที่ยวบิน เครื่องบิน เคาน์เตอร์เช็คอิน และศูนย์บริการทางโทรศัพท์คอลล์เซ็นเตอร์ การควบรวมกิจการประสบผลสำเร็จเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2017 โดยสายการบินไทเกอร์แอร์และ สกู๊ต ดำเนินงานภายใต้แบรนด์ สกู๊ต เนื่องจากการควบรวมกิจการนี้ รหัส IATA ของสกู๊ต เปลี่ยนจาก TZ เป็น TR ซึ่งเป็นรหัส IATA ของไทเกอร์แอร์ สายการบินที่เพิ่งควบรวมนี้มีเครื่องบินโบอิ้ง 787 Dreamliners ทั้งหมด 15 ลำ และแอร์บัส 320 จำนวน 23 ลำ โดยเครื่องบิน A320 ของไทเกอร์แอร์ จะถูกทาสีใหม่ด้วยแบบสีเหลืองและสีขาวซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในกลางปี 2018 สายการบินสกู๊ต ยังจะเปิดจุดหมายใหม่ 5 แห่ง ภายในเดือนมิถุนายน 2018 ซึ่งรวมไปถึง โฮโนลูลู ฮาร์บินและกวนตัน ในขณะนี้ สกู๊ต ดำเนินการให้บริการเที่ยวบินไปยัง 259 ปลายทางใน 16 ประเทศทั่วโลกอย่างไม่หยุดยั้ง
จองตั๋ว ไทเกอร์แอร์ ออนไลน์ง่ายๆด้วยขั้นตอนดังนี้:
ชำระเงินสำหรับการจองตั๋ว สายการบินสกู๊ต ได้ง่ายๆ ผ่านทาง การโอนเงิน อินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้ง ชำระบิลผ่าน ATM เคาน์เตอร์ชำระเงิน 7-Eleven หรือ บัตรเครดิต/เดบิต
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ วิธีการชำระเงิน.
ตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ของ สายการบินสกู๊ต เป็นหลักฐานการจองเที่ยวบินสายการบิน ไทเกอร์แอร์ คุณสามารถแสดงตั๋วอิเล็กทรอนิกส์เมื่อเช็คอินที่เคาน์เตอร์สสายการบินสกู๊ตบิน สายการบินสกู๊ต หรือใช้เพื่อเช็คอินด้วยตนเอง (ออนไลน์ หรือ ที่สนามบิน) เพื่อรับบอร์ดดิ้งพาส หากคุณไม่ได้รับตั๋วอิเล็กทรอนิกส์หลังจากทำการจอง 60 นาที กรุณาติดต่อฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ Traveloka