จองตั๋วเครื่องบินราคาถูกไปโปรตุเกสที่ Traveloka

โปรตุเกส (Portugal) หนึ่งในประเทศที่เก่าแก่ที่สุดในทวีปยุโรป ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของคาบสมุทรไอบีเรีย โอบล้อมด้วยมหาสมุทรแอตแลนติกทั้ง 2 ด้าน  ความสวยงามครบครัน ทั้งภูมิประเทศและสถาปัตยกรรม รวมถึงวัฒนธรรมที่หลากหลาย ทางเชื้อชาติ มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ เมืองชนบทและหมู่บ้านอันห่างไกล ไปจนถึงรีสอร์ทริมชายหาดที่มีชีวิตชีวา และอุทยานแห่งชาติอันตระการตา และหมู่เกาะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว 

“โปรตุเกส”  ถึงแม้จะเป็นประเทศเล็กๆ ในยุโรป แต่ก็เป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยว มีอาหารอร่อย และเป็นต้นตำรับขนมหวาน “ทาร์ต” ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมยาวนาน ภูมิประเทศงดงาม ทั้งที่ราบ แม่น้ำกว้างใหญ่ หุบเขาเขียวขจี และทิวเขาอันห่างไกล  ทางใต้ของโปรตุเกสเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม ขึ้นชื่อจากหาดทรายที่สวยงาม และสนามกอล์ฟระดับโลก และที่สำคัญค่าเดินทางที่ไม่แพง เหมาะกับการจองตั๋วเครื่องบินไปโปรตุเกสเป็นที่สุด 

สกุลเงิน

โปรตุเกสใช้สกุลเงิน ยูโร (Euro - EUR) แบ่งออกเป็น

ธนบัตร  ได้แก่ 5, 10, 20, 50, 100, 200 และ 500 ยูโร

เหรียญ ได้แก่ 1, 2, 5, 10, 20, 50 เซนต์ 1 ยูโร และ 2 ยูโร

โดย 1 ยูโร เท่ากับ 37.49 บาท

ฤดูกาลของโปรตุเกส

ภูมิอากาศของโปรตุเกสส่วนใหญ่เป็นทะเลเมดิเตอร์เรเนียน  โดยมีฤดูร้อนและฤดูหนาวที่ไม่ร้อนจัดและหนาวจัดจนเกินไป ภาคใต้มีอากาศแห้งและมีแดดจัด ขณะที่ภาคเหนือ อากาศจะเย็นลงและชื้นมากกว่า แบ่งออกเป็น 4 ฤดู ช่วงที่ดีที่สุดในการจองตั๋วเครื่องบินไปโปรตุเกสคือ เดือนมิถุนายนถึงกันยายน

• ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม - พฤษภาคม) ช่วงต้นฤดูยังคงมีอากาศหนาว  แดดไม่แรง และฝนตกบ้างจนถึงเดือนเมษายน แม้อากาศจะอุ่นขึ้นมาก แต่ก็หนาวเย็นหลังพระอาทิตย์ตกดิน อากาศเริ่มแจ่มใสในช่วงเดือนพฤษภาคม อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 10 - 18 องศาเซลเซียส
• ฤดูร้อน (มิถุนายน - สิงหาคม) ช่วงต้นฤดูร้อน น้ำฝนลดลงและแสงแดดเพิ่มขึ้น มิถุนายนเป็นเดือนที่อากาศสบายที่สุด มีแดดประมาณ 10 ชั่วโมงต่อวัน อุณหภูมิประมาณ 16 - 27 องศาเซลเซียส แต่ทางตอนเหนือสุดจะมีอากาศเย็นสบายกว่า
• ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน - พฤศจิกายน) อากาศอบอุ่น น้ำในมหาสมุทรค่อนข้างเย็น แต่ก็ยังคงว่ายน้ำได้ มีหมอกจัด และฝนตกในช่วงเดือนตุลาคม ชายฝั่งแอตแลนติกมีสภาพอากาศแปรปรวน ฤดูชายหาดสิ้นสุดลงในเดือนพฤศจิกายน อุณหภูมิเริ่มลดลงเหลือประมาณ 11 องศาเซลเซียส
• ฤดูหนาว (ธันวาคม - กุมภาพันธ์) ภาคเหนือมีอากาศหนาวแต่ไม่รุนแรง เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในยุโรป บริเวณชายฝั่งเป็นพื้นที่ที่อบอุ่นที่สุด อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 5 - 9 องศาเซลเซียส และลดลงเหลือ 0 - 4 องศาเซลเซียสในเวลากลางคืน 

ภูมิภาคของโปรตุเกส

โปรตุเกสแบ่งออกเป็น 5 ภูมิภาค และ 2 เขตปกครองตนเอง ได้แก่ 

• อาเลนเตโจ (Alentejo) ภาคใต้ตอนกลางของประเทศ เป็นเขตผลิตไวน์ที่ใหญ่ที่สุด และยังมีร้านอาหารที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในโปรตุเกส เมืองหลักได้แก่ เอโวรา, แบจา, ไซเนส, เซอร์ปา, เอสเทรมอซ, เอลวาส และพอร์ทัลเลเกร
• แอลการ์ฟ (Algarve) เป็นชายฝั่งทางใต้ของโปรตุเกส นอกจากเมืองที่มีชีวิตชีวาแล้ว ยังมีแนวชายฝั่งที่สวยงามตระการตากว่า 200 กิโลเมตร ภายในเป็นภูเขา และเขตอนุรักษ์ธรรมชาติอันเงียบสงบ เมืองหลักคือฟาโร 
• ภาคเหนือ (North) ตั้งอยู่ทางเหนือของโปตุเกส และทางตะวันออกกับสเปน โดดเด่นเรื่องธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และขึ้นชื่อเรื่องไวน์และอาหารรสเลิศ  มีเมืองปอร์โตเป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก 
• ภาคกลาง (Center) หรือที่เรียกว่า “โปรตุเกสกลาง” เป็นที่ตั้งป่าโบราณ อาราม ปราสาทอันเป็นมรดกทางศิลปะและประวัติศาสตร์ มีเมืองสปาชื่อคูเรียและลูโซ เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม
• ลิสบอนและหุบเขาทากัส (Lisbon and Tagus Valley) เป็นที่ตั้งของเมืองหลวง “ลิสบอน” ที่ทอดยาวไปตามริมฝั่งแม่น้ำเทกัส ซึ่งไหลลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติก เป็นที่ราบสีเขียวและอุดมสมบูรณ์ มีภูมิทัศน์สวยงาม มีเสน่ห์แบบยุคกลาง  
• หมู่เกาะมาเดรา (Madeira Islands) เป็น 1 ใน 2 เขตปกครองตนเองของโปรตุเกส เป็นหมู่เกาะในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ มีเมืองหลวงชื่อฟุงชาลซึ มีรีสอร์ทตากอากาศเป็นเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือน
• หมู่เกาะอะซอเรส (Azores Islands) เป็นขตปกครองตนเอง ประกอบด้วยเกาะภูเขาไฟ 9 แห่ง ในมหาสมุทรแอตแลนติกตอนเหนือ เมืองที่ใหญ่ที่สุด คือปอนตาเดลกาดา ซึ่งมีวัฒนธรรมประเพณี ภาษาถิ่น และอาหารเป็นเอกลักษณะเฉพาะตัว

สนามบินสำคัญของโปรตุเกส   

1. สนามบินฮัมแบร์โตเดลกาโด (Humberto Delgado Airport) มีอีกชื่อเรียกว่า “สนามบินลิสบอน” (Lisbon Airport) เป็นสนามบินนานาชาติหลักของโปรตุเกส ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองลิสบอนไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 7 กิโลเมตร
2. สนามบินฟรานซิสโกเดซาคาร์เนโร (Francisco de Sa Carneiro Airport) หรือเรียกสั้นๆ ว่า “สนามบินปอร์โต” (Porto Airport) เป็นสนามบินนานาชาติใกล้กับเมืองปอร์โต ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 11 กิโลเมตร 
3. สนามบินฟาโร (Faro Airport) เป็นสนามบินนานาชาติตั้งอยู่ในเขตแอลการ์ฟ ทางใต้ของโปรตุเกส เป็นสนามบินที่มีทิวทัศน์สวยงามแห่งหนึ่ง เพราะอยู่ใกล้ทะเลและธรรมชาติเขียวขจี อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 4 กิโลเมตร
4. สนามบินซานตามาเรีย (Santa Maria Airport) เป็นสนามบินนานาชาติของเกาะซานตามาเรีย ซึ่งเป็นเขตปกครองตนเอง ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือตัวเมือง 5 กิโลเมตร
5. สนามบินโจเอาเปาโล II (Joao Paulo II Airport)  เป็นสนามบินนานาชาติที่ตั้งอยู่บนเกาะเซามิเกล ในหมู่เกาะอะซอเรส  ตั้งอยู่ทางตะวันตกของใจกลางเมืองปอนตาเดลกาดา 2 กิโลเมตร 
6. สนามบินอื่นๆ ที่ให้บริการในโปรตุเกส ได้แก่  สนามบินลาเจส (Lajes Airport) สนามบินมาเดรา (Madeira Airport) สนามบินฮอร์ตา (Horta Airport) สนามบินปอร์โตซานตู (Porto Santo Airport) สนามบินฟลอเรส (Flores Airport) สนามบินกราซิโอซา (Graciosa Airport) สนามบินเซาจอร์จ (Sao Jorge Airport) สนามบินบราแกนซา (Braganca Airport)

การเดินทางไปโปรตุเกส 

สายการบินที่ให้บริการเที่ยวบินต่อ (พัก 1 - 2 จุด) กรุงเทพฯ - โปรตุเกส ได้แก่ การบินไทย (Thai Airways) กาตาร์แอร์เวย์ ( Qatar Airways) ทิวแอร์ไลน์เนเธอร์แลนด์ (Tui Airlines Netherlands) เตอร์กิชแอร์ไลน์ (Turkish Airlines)  ฟินน์แอร์ (Finn Air) เคแอลเอ็มโรยัลดัตช์แอร์ไลน์ (KLM Royal Dutch Airline) ลุฟฮันซา (Lufthansa) แทปปแอร์โปรตุเกส (Tap Air Portugal) สวิสอินเตอร์เนชันแนลแอร์ไลน์ (Swiss International Air Lines) สแกนดิเนเวียนแอร์ไลน์ (Scandinavian Airlines) ออสเตรียนแอร์ไลน์ (Austrian Airlines) เอธิโอเปียนแอร์ไลน์ (Ethiopian Airlines) เอมิเรตส์แอร์ไลน์ (Emirates Airlines) แอร์ฟรานซ์ (Air France) ใช้เวลาเดินทางอย่างน้อย 16 ชั่วโมง 45 นาที

การเดินทางในโปรตุเกส  

• เครื่องบิน (Plane) เที่ยวบินภายในประเทศมีราคาแพง และมีระยะทางสั้นๆ สนามบินหลักคือ “สนามบินลิสบอน” (Lisbon Airport) ส่วนสายการบินแห่งชาติของโปรตุเกส ได้แก่ แทปแอร์โปรตุเกส (Tap Air Portugal)  
• รถไฟ (Train) สะดวกสบาย และราคาไม่แพง การรถไฟโปรตุเกส (Comboios de Portugal) เชื่อมต่อเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ มี 4 ประเภทคือ รถไฟท้องถิ่น รถไฟชานเมือง รถไฟด่วน และรถไฟทางไกล 
• รถประจำทาง (Bus) เป็นวิธีเดินทางที่ช้ากว่า และถูกกว่ารถไฟ เหมาะสำหรับการเยี่ยมชมเมืองและหมู่บ้านเล็กๆ ที่รถไฟไปไม่ถึง มีทั้งรถเมล์ธรรมดา และรถด่วน  
• รถยนต์ (Car Rental) เป็นวิธีที่สะดวก และราคาไม่แพงนัก แต่ถนนในชนบทที่ห่างไกลไม่ค่อยดีนัก ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก มีบริการรถเช่าที่สนามบินในเมืองใหญ่ เช่น ลิสบอน ปอร์โต และฟาโร 
• รถราง (Tram) ให้บริการในเมืองใหญ่อย่าง ลิสบอนและปอร์โต เป็นการทัวร์ชมเมืองที่ราคาไม่แพง ควรเลือกเดินทางในช่วงเช้าตรู่ ที่คนไม่แน่นเกินไป 
• แท็กซี่ (Taxi) ราคาค่อนข้างถูก คิดราคาตามมิเตอร์ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับการขนสัมภาระ ในช่วงสุดสัปดาห์ หรือระหว่างเวลา 22:00 น. - 6:00 น.  มากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ 
• จักรยาน (Bike) เป็นที่นิยมมากขึ้นในโปรตุเกส  เส้นทางจักรยานโดยเฉพาะก็เริ่มปรากฏขึ้นในเมืองใหญ่ๆ เช่น ลิสบอนและปอร์โต ดูเส้นทางปั่นจักรยานในท้องถิ่นได้ที่ bikotels.com

เทศกาลสำคัญในโปรตุเกส

1. เทศกาลดอกไม้มาเดรา (Madeira Flower Festival) เทศกาลดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ ที่เต็มไปด้วยสีสันและความสดชื่น จัดขึ้นทุกปีหลังเทศกาลอีสเตอร์ที่เกาะมาเดรา ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะเกาะแห่งดอกไม้หรือสวนลอยน้ำ บรรยากาศเต็มไปด้วยดอกไม้หลากสีหลายพันธุ์ ตั้งแต่ในขบวนพาเหรดที่ยิ่งใหญ่ และชุดแฟนซีดอกไม้สุดอลังการของผู้เข้าร่วมงาน
2. เทศกาลศิลปะออเอดา (Agueda Art Festival) เทศกาลดนตรีสุดน่ารักของเมืองออเอดา ซึ่งจัดขึ้นทุกเสาร์แรกของเดือนกรกฎาคม 
3. ตลอดงานที่ยาวนานเกือบ 1 เดือน เต็มไปด้วยเสียงดนตรี การแสดงศิลปะ อาหารอร่อย และความสนุกไม่หยุดหย่อน ไฮไลท์คือการนำร่มสีสันสดใสมาประดับประดา สวยงามมาก นับเป็นหนึ่งในเทศกาลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก 
4. เทศกาลเซาโจเอา (Sao Joao Festival) เทศกาลเก่าแก่แห่งเมืองปอร์โต เป็นงานเฉลิมฉลองและขอบคุณพระเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ สำหรับการเก็บเกี่ยวที่ดีและความอุดมสมบูรณ์ มีขึ้นในช่วงฤดูร้อน วันที่ 23 มิถุนายนของทุกปี ทั้งเมืองจะสว่างไสวด้วยแสงไฟ และอาคารบ้านเรือนประดับประดาตกแต่งสวยงาม บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนานรื่นเริง  

สถานที่เที่ยวสำคัญในโปรตุเกส

1. กรุงลิสบอน (Lisbon) “ลิสบอน” เมืองหลวงโปรตุเกส เป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในโลก  และเป็นหนึ่งในเมืองที่มีเสน่ห์และมีชีวิตชีวาที่สุดในยุโรป เป็นเมืองที่ผสมผสานมรดกดั้งเดิมเข้ากับความทันสมัย มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและหลากหลาย สถานบันเทิงยามค่ำคืนที่ครึกครื้น และอากาศดีตลอดปี กิจกรรมห้ามพลาดคือนั่งรถรางโบราณชมเมือง 
2. พระราชวังแห่งชาติเปนา (Pena National Palace) พระราชวังบนยอดเขาเหนือเมืองซิงตราแห่งนี้ เป็นปราสาทแนวโรแมนติกที่สร้างเสร็จในปี 1854 นับเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกด้วย เป็นอนุสาวรีย์แห่งชาติที่ขึ้นชื่อเรื่องสถาปัตยกรรมและสวนป่ากว้างใหญ่ และสามารถมองเห็นได้ง่ายจากลิสบอนในวันที่อากาศแจ่มใส  
3. อุทยานแห่งชาติเปเนดาเจแรส (The Peneda Geres National Park) อุทยานเก่าแก่กว้างใหญ่ถึงเกือบ 300 ตารางไมล์ ที่นอกจากจะมีความสมบูรณ์ของธรรมชาติป่าไม้แล้ว ยังมีหลักฐานทางโบราณคดีที่น่าสนใจ ทั้งสุสานหิน สะพาน หรือถนนยุคโรมัน และยังมีสัตว์ป่าหายาก เช่น ทั้งกิ้งก่าเขียวชไรเบอร์ หมาป่าสีเทา และถ้าโชคดีจะได้เห็นกวางโรเดียร์ สัตว์เฉพาะถิ่นที่ถูกนำมาทำเป็นสัญลักษณ์ของอุทยานด้วย
4. เมืองอาวีโร (Aveiro) “อาวีโร” เป็นที่รู้จักกันในชื่อ "เวนิสโปรตุเกส" เป็นเมืองเล็กๆ ที่ขึ้นชื่อเรื่องคลอง สถาปัตยกรรมแบบนูโว และเรือโมลิเซโรที่มีสีสันสดใส เมืองนี้ตั้งอยู่ริมทะเลสาบน้ำเค็ม ซึ่งในอดีตเคยเพาะปลูกสาหร่าย เกลือ และปลาที่อุดมสมบูรณ์ ปัจจุบันมีย่านชาวประมงแท้ๆ อาคารสไตล์อาร์ตนูโวอันวิจิตร และอาคารทางศาสนาที่ยิ่งใหญ่มากมาย และบรรยากาศแบบโปรตุเกสแท้ๆ ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชม
5. เมืองอัลการ์ฟ (Algarve) พื้นที่แห่งความงดงามด้วยธรรมชาติ อยู่ทางใต้สุดของโปรตุเกส มีหาดทรายทอดยาวสุดลูกหูลูกตา โอบล้อมด้วยหน้าผาสีทอง และอ่าวเล็กๆ ที่ปกคลุมไปด้วยโขดหิน มหาสมุทรในเฉดสีฟ้าเชิญชวนให้ว่ายน้ำเล่น และดื่มด่ำกับกีฬาทางน้ำ แลนด์มาร์กเด่นคือ “แหลมเซนต์วินเซนต์” แหลมแห่งประวัติศาสตร์ที่เคยถูกเล่าขานว่าเป็นจุดสิ้นสุดของโลก

เคล็ดลับการเดินทางไปโปรตุเกส 

• ฤดูชายหาดของโปรตุเกส คือเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม ทุกอย่างจะมีราคาแพงที่สุดในช่วง 2 เดือนนี้
• เที่ยวแบบประหยัดและคนน้อย แนะนำให้จองตั๋วเครื่องบินไปโปรตุเกสในเดือนกันยายนหรือมิถุนายน 
• ค่าโดยสาร เด็กอายุต่ำกว่า 4 ปี เดินทางฟรี อายุ 4-12 ปี ครึ่งราคา  และอายุไม่เกิน 25 ปี ได้รับส่วนลด 25% ผู้เดินทางที่มีอายุมาก 65 ปี ขึ้นไป ได้รับส่วนลดครึ่งราคา
• การจองรถไฟผ่าน cp.pt ช่วยประหยัดงบได้มาก บางเส้นทางมีส่วนลดประมาณ 40% หากจองล่วงหน้า 
• รถไฟภูมิภาคและรถไฟด่วนมีตู้โดยสารชั้น 1 - 2 ยกเว้นรถไฟท้องถิ่นและรถไฟชานเมือง ซึ่งมีชั้นเดียวเท่านั้น