จองที่พักและโรงแรมฮอกไกโดง่ายๆ ติดที่เที่ยวชั้นนำ ราคาประหยัด กับ Traveloka ผู้ให้บริการจองออนไลน์แสนสะดวก มาพร้อมกับที่พักฮอกไกโด ส่วนลดสูงสุด 80%
ฮอกไกโด มีอากาศดีมากกว่าในภูมิภาคอื่น จึงมักมีผู้คนนิยมไปตากอากาศและพักผ่อนกันค่อนข้างหนาตา โดยจะมีอุณหภูมิอยู่ที่ 15 - 30 องศาเซลเซียสโดยประมาณ สภาพภูมิประเทศโดยทั่วไปของแถบนี้เป็นภูเขาโดยส่วนมาก และเรียกได้ว่าเป็นพื้นที่ที่มีธรรมชาติสวยงามและอุดมสมบูรณ์ ถือเป็นเขตเกษตรกรรมที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่น เป็นแหล่งผลิตข้าวและอาหารทะเลชั้นดี รวมถึงมีผักผลไม้ที่มีคุณภาพสูง ซึ่งอาหารที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพดีถือเป็นจุดดึงดูดอย่างหนึ่งของฮอกไกโด โดยนักท่องเที่ยวชาวไทยจะนิยมไปเที่ยวที่นี่กันหนาแน่นในช่วงฤดูหนาวเพื่อชมเทศกาลหิมะซึ่งจัดขึ้นในทุกปี และอีกช่วงที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่นคือช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนซึ่งมีดอกไม้สวยๆ ให้ชมกันแบบสุดฟิน
ฮอกไกโดนับเป็นจังหวัดและเป็นเกาะที่ใหญ่อันดับสองของประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วยเกาะใหญ่และเล็กหลายเกาะ แต่มีประชากรโดยรวมค่อนข้างเบาบาง คือประมาณ 5 ล้านคน โดยมีชนเผ่า ไอนุ เป็นคนท้องถิ่นดั้งเดิม ซึ่งอยู่อาศัยในบริเวณนี้มาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบันนี้เหลืออยู่เพียงไม่มากแล้ว เดิมบริเวณนี้เรียกว่า เอโซะ มาจนกระทั่งหมดสมัยเมจิ จึงเปลี่ยนชื่อเรียกมาเป็นฮอกไกโด ซึ่งแปลว่าเส้นทางสู่ทะเลเหนือ
เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของฮอกไกโดคืออากาศที่เย็นจัดในช่วงฤดูหนาวจนที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งหิมะกันเลยทีเดียว ในหนึ่งปีฮอกไกโดจะมีหิมะตั้งแต่ 4 – 6 เดือน และช่วงฤดูหนาวจะมีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 5 องศา ไปจนถึง –20 องศาหรือต่ำกว่านั้น แต่ในช่วงฤดูร้อนนั้น เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่ฮอกไกโดจะมีอากาศดีมากกว่าในภูมิภาคอื่น จึงมักมีผู้คนนิยมไปตากอากาศและพักผ่อนกันค่อนข้างหนาตา โดยจะมีอุณหภูมิอยู่ที่ 15 - 30 องศาเซลเซียสโดยประมาณ สภาพภูมิประเทศโดยทั่วไปของแถบนี้เป็นภูเขาโดยส่วนมาก และเรียกได้ว่าเป็นพื้นที่ที่มีธรรมชาติสวยงามและอุดมสมบูรณ์ ถือเป็นเขตเกษตรกรรมที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่น เป็นแหล่งผลิตข้าวและอาหารทะเลชั้นดี รวมถึงมีผักผลไม้ที่มีคุณภาพสูง ซึ่งอาหารที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพดีถือเป็นจุดดึงดูดอย่างหนึ่งของฮอกไกโด โดยนักท่องเที่ยวชาวไทยจะนิยมไปเที่ยวที่นี่กันหนาแน่นในช่วงฤดูหนาวเพื่อชมเทศกาลหิมะซึ่งจัดขึ้นในทุกปี และอีกช่วงที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่นคือช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนซึ่งมีดอกไม้สวยๆ ให้ชมกันแบบสุดฟิน
ด้วยความที่ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวไปเยือนฮอกไกโดกันมากมายและเรียกได้ว่าแทบจะตลอดทุกฤดูกาล ที่พักในฮอกไกโดจึงมีหลากหลายรูปแบบเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวได้อย่างทั่วถึง โดยมีตั้งแต่โรงแรมขนาดใหญ่ในตัวเมือง โรงแรมขนาดกลางและเล็กซึ่งเป็นกิจการในท้องถิ่น โฮสเทล เกสท์เฮ้าส์ และสกีรีสอร์ท ซึ่งจะเปิดให้บริการในช่วงฤดูหนาว รวมถึงที่พักในรูปแบบเรียวกังซึ่งนักท่องเที่ยวทั้งญี่ปุ่นและต่างชาตินิยมใช้บริการค่อนข้างมาก แต่ก็จะมีราคาตั้งแต่ปานกลางไปจนถึงค่อนข้างสูง โดยที่พักในฮอกไกโดทั้งหมดจะกระจายตัวกันอยู่อย่างทั่วถึง แต่ที่พักประเภทโฮสเทลและเกสท์เฮ้าส์มักจะมีหนาแน่นอยู่ในโซนตัวเมืองเป็นหลัก และด้วยความที่มีการเดินทางที่ค่อนข้างสะดวกสบายและครอบคลุมด้วยเครือข่ายรถไฟเป็นหลัก จึงทำให้การเดินทางไปในจุดต่างๆ เป็นเรื่องไม่ยากนักและไม่น่ากังวล ถ้าหากคุณอยากทำความรู้จักกับที่พักในฮอกไกโดก่อนจะตัดสินใจเลือกใช้บริการ เราขอแนะนำตัวอย่างที่พักฮอกไกโดที่น่าสนใจให้คุณได้ลองพิจารณา อาทิ โรงแรมสไมล์ ฮาโกดาเตะ, โฟร์ พอยท์ส บาย เชอราตัน ฮาโกดาเตะ และ โรงแรมแอร์ เทอร์มินอล เป็นต้น
หากคุณกำลังมองหาที่พักฮอกไกโด ซึ่งสะดวกและง่ายดายต่อการเดินทางไปยังที่ต่างๆ นี่คือที่พักในฮอกไกโดที่คุณน่าจะถูกใจ เพราะอยู่ห่างจากสถานีรถไฟซัปโปโรเพียงแค่ 200 เมตรนิดๆ เท่านั้น ตัวโรงแรมอยู่ติดถนนใหญ่ซึ่งนอกจากเดินทางได้สะดวกแล้วยังง่ายต่อการมองหาร้านอาหารและร้านค้าอีกด้วย ห้องพักมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบและราคา และยังมีห้องสำหรับคนที่เดินทางมาเป็นกลุ่มเล็กๆ อีกด้วย ทุกห้องเพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน
คลิกเพื่อจองที่พัก โรงแรมมายสเตย์ส ซัปโปโร แอสเพน
ที่พักในฮอกไกโดแห่งนี้ เป็นอีกหนึ่งที่พักซึ่งคุณจะค่อนข้างสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวัน เพราะอยู่ไม่ไกลเกินไปจากสถานีรถไฟ, Nijo Market และ Nakajima Park คุณจึงไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทาง ตัวโรงแรมแม้มีขนาดไม่ใหญ่ แต่ก็อยู่ติดถนนสะดวกสบาย และมีห้องพักให้เลือกใช้บริการได้หลายรูปแบบในราคาที่ถือว่าไม่แพง ทุกห้องมาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายที่ค่อนข้างครบครัน นับว่าที่นี่เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีซึ่งคุณควรเก็บไว้ใช้ในการพิจารณา
คลิกเพื่อจองที่พัก โรงแรมเอพีเอ ซัปโปโร ซูซูคิโนะ-เอคิมินามิ
เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งที่พักฮอกไกโดซึ่งอยู่ใกล้มากจากสถานีรถไฟซัปโปโรเพียง 200 เมตร และอยู่ไม่ไกลจาก Stellar Place Sapporo, Hokkaido University Museum และ Sapporo JR Tower ตัวโรงแรมตกแต่งภายใต้บรรยากาศทันสมัยแต่ยังให้ความรู้สึกอบอุ่นน่าสบายด้วยโทนสีเรียบขรึม ห้องพักมีให้เลือกหลายรูปแบบตามความต้องการ ตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน
คลิกเพื่อจองที่พัก โรงแรม มายสเตย์ส ซัปโปโร สเตชั่น
สำหรับคนที่กำลังมองหาที่พักฮอกไกโดราคาดี และสะดวกง่ายดายต่อการเดินทางไปเล่นสกีให้สาแก่ใจ แนะนำให้เก็บที่พักในฮอกไกโดแห่งนี้ไว้พิจารณาดูก่อน เพราะเป็นที่พักขนาดกะทัดรัดซึ่งราคาดีไม่มีเดือดร้อนกระเป๋าสตางค์ แถมเค้ายังมีรถรับ – ส่งไปถึงลานสกีให้ด้วยนะ ภายในที่พักตกแต่งแบบเรียบง่าย แต่โปร่งสบายตา ให้ความรู้สึกกันเองและผ่อนคลายด้วยการใช้ไม้สีอ่อนผสมกันสีสดใสในสไตล์พาสเทล ห้องพักขนาดไม่ใหญ่ เรียบง่าย แต่ให้บรรยากาศอบอุ่นและมีให้เลือกหลายรูปแบบ
คลิกเพื่อจองที่พัก MY ecolodge
ถือเป็นนาทีทองสำหรับเหล่าชายหนุ่มทั้งหลาย เพราะนี่คือที่พักในฮอกไกโดที่ราคาสบายใจมาก ในราคาหลักไม่กี่ร้อยบาทต่อคืนเท่านั้น มาในสไตล์โรงแรมแคปซูลที่อยู่ในทำเลสุดสะดวกสบาย เพราะอยู่ห่างจากสถานีรถไฟซัปโปโรไม่ถึง 300 เมตร และยังแวดล้อมด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย ด้านในตกแต่งสไตล์มินิมัล เรียบ ง่าย แต่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายที่ครบครัน และยังให้บรรยากาศที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวพอสมควร
คลิกเพื่อจองที่พัก CITY CABIN by Nikoh Refre - Caters to Men
ใครว่าเรียวกังจะต้องมาพร้อมราคาแพงเอื้อมไม่ถึงเสมอไป เปลี่ยนความคิดใหม่ได้เลย เพราะที่พักในฮอกไกโดแห่งนี้เป็นเรียวกังที่ให้อารมณ์สบายและสงบแบบญี่ปุ่นแท้ ในสไตล์บ้านท้องถิ่นขนาดกะทัดรัด และยังให้ความรู้สึกเหมือนได้ไทม์แมชชีนย้อนยุคกลับไปยังช่วงญี่ปุ่นสมัยโบราณ ใครชอบเสน่ห์ของบ้านที่ตกแต่งสไตล์วินเทจน่าจะถูกใจ ตัวเรียวกังตั้งอยู่ไม่ไกลจากย่านชุมชน จึงไม่ยากในการมองหาร้านค้าหรือร้านอาหาร และยังมีสถานท่องเที่ยวอย่างสกีรีสอร์ท, Noboribetsu Hot Spring และ Noboribetsu Bear Park อยู่ในระยะไม่ไกลมากหากเดินทางด้วยรถยนต์
คลิกเพื่อจองที่พัก DAIWA RYOKAN
ป้อมโงเรียวกาคุแห่งนี้ มีชื่อที่คนส่วนใหญ่นิยมเรียกกันง่ายๆ ตามลักษณะรูปร่างว่าป้อมดาว 5 แฉก ตั้งอยู่ในเมืองฮาโกดาเตะ และถือว่าเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่ขาดไม่ได้ในการมาเยือนถ้าคุณมาถึงฮอกไกโดทั้งที ที่นี่สร้างขึ้นในปีสุดท้ายของสมัยเอโดะ ในช่วงราวๆ ปี ค.ศ.1866 เพื่อป้องกันเมืองฮาโกดาเตะจากการคุกคามของชนชาติตะวันตก และที่ทำเป็นรูปดาวห้าแฉกชวนให้นึกถึงดาวกระจายของนินจาแบบนี้ ก็เพราะเค้าบอกว่ามันจะเป็นการเพิ่มพื้นที่สำหรับตั้งปืนใหญ่ได้มากขึ้นนั่นเอง ด้านในป้อมยังมีอาคารสำนักงานปกครองฮาโกดาเตะซึ่งเป็นอาคารเก่าแก่ในสไตล์โบราณตั้งอยู่ ใครที่สนใจก็สามารถเลี้ยวเข้าไปชมกันได้ และเพราะผ่านสงครามมาหลายยุคหลายสมัย ทั้งกับต่างชาติและสงครามภายในของประเทศญี่ปุ่นเอง อาคารภายในตัวป้อมนี้จึงเกิดการพังทลายลงไปอย่างราบคาบ จนมีการบูรณะขึ้นมาใหม่และเปิดให้เข้าชมเมื่อปี ค.ศ.2010 ที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันป้อมแห่งนี้เปิดเป็นสวนสาธารณะซึ่งถือว่าเป็นจุดชมซากุระที่งดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นอีกด้วย เพราะด้านในเต็มไปด้วยต้นซากุระกว่า 1,600 ต้น ซึ่งจะบานสะพรั่งละลานตาเมื่อถึงช่วงเวลาฤดูใบไม้ผลิซึ่งถือว่าเป็นช่วงพีคสุดของที่นี่ และใกล้กันยังมี Goryokaku Tower หอคอยสูง 90 เมตร ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่จะมองเห็นป้อมนี้ได้ในมุมสูงพร้อมกับได้ชมวิวรอบๆ แบบ 360 องศา เรียกว่ามาครั้งเดียวได้เห็นป้อมนี้ในทุกมิติกันเลยละ ถือว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้มเลยเชียว หากคุณสนใจอยากได้ที่พักซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบริเวณป้อมแห่งนี้ เราขอแนะนำ Wing International, โรงแรมฮาโกดาเตะ ริช โกเรียวกากุ และ รูท-อินน์ แกรนเทีย ฮาโกดาเทะ โกเรียวคาคุ ไว้เป็นตัวเลือกดีๆ สำหรับให้คุณได้ใช้ในการพิจารณา
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลาประมาณ 9.00 – 18.00 น.
อัตราค่าเข้าชม อาคารสำนักงานปกครองฮาโกดาเตะ คนละ 500 เยน Goryokaku Tower ผู้ใหญ่ 840 เยน, นักเรียน 630 เยน, เด็ก 420 เยน (เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีเข้าฟรี)
ถ้ามีโอกาสมาเยือนเมืองฮาโกดาเตะเมื่อไหร่ ขอบอกว่าไม่ควรพลาดการได้มาเยือนที่นี่ด้วยประการทั้งปวงเลยละ เพราะวิวร้อยล้านยามค่ำคืนเมื่อมองจากด้านบนภูเขาแห่งนี้ถือว่ามีความสวยงามในระดับโลกกันเลยเชียวนะ ส่วนในญี่ปุ่นวิวที่นี่ก็ถือได้ว่าพีคมาก เพราะเรียกว่าเป็น 1 ใน 3 จุดชมวิวที่สวยที่สุดของญี่ปุ่นเลยละ โดยอีกสองแห่งคือที่ภูเขา Inasa ที่เมืองนางาซากิและ ภูเขา Rokko ที่เมืองโกเบ จากความสูง 334 บนยอดเขา เราจะได้เห็นทิวทัศน์ของสองอ่าวที่เว้าเข้ามาประกบพื้นที่เมืองเอาไว้ตรงกลาง ช่วงเวลาที่ถือว่าพีคในการมาชมวิวที่นี่ก็แน่นอนว่าต้องเป็นช่วงที่พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า เพราะจะได้เห็นทั้งแสงสีสารพัดในยามทไวไลท์ และยังได้เห็นแสงไฟระยิบระยับเมื่อยามฟ้ามืดสนิทอีกด้วย ในฤดูกาลทั่วไปจะสามารถเลือกวิธีการเดินทางมายังด้านบนของภูเขาซึ่งเป็นจุดชมวิวแห่งนี้ได้ด้วยวิธีการเดินเท้า ด้วยรถยนต์ และด้วยกระเช้าไฟฟ้าที่มีให้บริการ แต่ถ้าเป็นช่วงฤดูหนาวที่หิมะท่วมท้นละก็ จะสามารถขึ้นมาด้วยกระเช้าไฟฟ้าได้เพียงวิธีเดียวเท่านั้น ด้านบนมีร้านอาหารและร้านกาแฟ รวมถึงร้านขายของที่ระลึกเปิดให้บริการด้วยนะ จึงมั่นใจว่าขึ้นไปชมวิวกันได้แบบไร้ซึ่งความหิวแน่นอน สบายใจได้เลย ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งซึ่งกำลังมองหาที่พักซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ เราก็มีตัวเลือกที่พักที่น่าสนใจมานำเสนอ อาทิ โรงแรมฮาโกดาเตะยามะ และ โรงแรมฮาจิมันซากะ เป็นต้น
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น.
อัตราค่าบริการกระเช้าไฟฟ้า ผู้ใหญ่ 1,280 เยน (ไป - กลับ) / 780 เยน (เที่ยวเดียว) เด็ก 640 เยน (ไป – กลับ) / 390 เยน (เที่ยวเดียว)
พื้นที่แถบนี้เคยเป็นถิ่นที่อยู่ของชาวไอนุ และเชื่อกันว่าชื่อ โอตารุ มีที่มาจากภาษาไอนุ ซึ่งอาจหมายถึง แม่น้ำที่ไหลผ่านหาดทราย โอตารุเป็นเมืองที่มีขนาดไม่ใหญ่และอยู่ไม่ไกลจากซัปโปโร โดยในอดีตเมืองนี้เคยเป็นเมืองท่าสำคัญแห่งหนึ่งของฮอกไกโด จึงส่งผลให้มีอาคารรูปร่างแปลกตากว่าเมืองอื่นตั้งอยู่มากมาย และมีคลองความยาว 1,140 เมตรไหลผ่านกลางเมือง โดยมีการประดับตกแต่งถนนริมคลองด้วยโคมไฟถนนแบบวิคตอเรียนซึ่งตั้งอยู่ฝั่งหนึ่งของตัวคลอง ในขณะที่อีกฝั่งเป็นอาคารโกดังเก่าสวยแปลกตา ซึ่งในฤดูกาลต่างๆ ก็ถือว่าสวยงามน่าประทับใจในอารมณ์ที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวซึ่งหิมะจะท่วมสูงขาวโพลนไปทั้งเมือง ทำให้เกิดความสวยงามให้อารมณ์โรแมนติกของการเดินเล่นในเมืองเล็กๆ แห่งนี้ ในแต่ละปี จะมีงานเทศกาลทางเดินแห่งแสงหิมะโอตารุ ซึ่งจะมีการลอยเทียนในถ้วยแก้วกันเต็มลำคลอง เพิ่มบรรยากาศโรแมนติกให้ฟินกันยิ่งขึ้นไปอีก จึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีนักท่องเที่ยวกว่า 500,000 รายหลั่งไหลเข้ามาชมงานนี้กันทุกปี แต่ถ้าอยากมาเดินแบบชิลล์ๆ สบายๆ ขอให้เลือกช่วงเวลาที่ไม่ตรงกับงานนี้นะ รับรองว่าจะได้บรรยากาศที่โดนใจแน่นอน และหากคุณกำลังมองหาที่พักน่าสนใจซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบริเวณนี้ เราขอแนะนำตัวเลือกดีๆ อาทิ แกรนด์ พาร์ค โอตารุ, โรงแรมนอร์ด โอตารุ และ โรงแรมโซเนีย โอตารุ ไว้สำหรับให้คุณได้ใช้ในการพิจารณา
ในช่วงฤดูอื่นบริเวณแถบฟุราโน่แห่งนี้จะเป็นผืนพรมดอกไม้หลากสีขนาดใหญ่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเยี่ยมชมและถ่ายรูปกับดอกไม้นานาพรรณซึ่งหลายคนน่าจะเคยเห็นผ่านตา และจากสีสันสะดุดตา ก็ได้แปลงโฉมกลายเป็นลานสกีสีขาวโพลนขนาดมหึมาในช่วงฤดูหนาว และแถบนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นสกีรีสอร์ทที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆ ของฮอกไกโดเลยทีเดียว แถมยังเคยถูกใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันสกีในระดับโลกมาแล้วหลายงาน โดยมีพื้นที่กว้างใหญ่สำหรับใช้เล่นสกีในสารพัดเลเวล มีทางลาดต่ำสำหรับมือใหม่หัดเล่นและทางที่สูงชันบนไหล่เขาสำหรับให้มือโปรในเรื่องกีฬาท้าความหนาวเลือกตามระดับความสามารถ และหากคุณไม่ถูกโรคกับการเล่นสกีหรือสโนว์บอร์ดก็ไม่ต้องเป็นกังวล เพราะที่นี่ยังมีกิจกรรมให้เลือกทำอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการขี่ snow mobile, snow rafting หรือแม้กระทั่งการเปิดประสบการณ์ใหม่ไปกับสุนัขลากเลื่อนที่ไม่ได้มีให้ลองในทุกที่ที่มีหิมะ เพราะฉะนั้น ถ้ามีโอกาส ลองเลย หากคุณกำลังมองหาที่พักดีๆ ในย่านนี้อยู่ละก็ เราขอนำเสนอตัวอย่างที่พักน่าสนใจไว้สำหรับเป็นตัวช่วยในการพิจารณาของคุณ อาทิ อิตสึกะ ฟุราโนะ เอะ, เพนชัน เชอร์มาแมน และ เพนชัน กูสเบอร์รี เป็นต้น
Noboribetsu เป็นเมืองน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงบนเกาะฮอกไกโด โดยมีแหล่งพักผ่อนในรูปแบบออนเซ็นธรรมชาติ และหุบเขา Jigokudani ที่จะสามารถเห็นน้ำพุร้อนพุ่งขึ้นมาจากใต้ดินได้ตลอดเวลา เรียกได้ว่าแถบนี้เป็นย่านบ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับหนึ่งของฮอกไกโดกันเลยทีเดียว แถมยังได้รับการยอมรับว่าเป็นที่มีคุณสมบัติของน้ำแร่ดีเยี่ยมที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นอีกด้วย โดยจะมีบางพื้นที่ที่คุณจะได้พบสายน้ำแร่ร้อนที่ไหลลงมาจากด้านบนของหุบเขา ซึ่งมีการจัดทำเป็นพื้นที่นั่งแช่เท้าสุดชิลล์กันได้แบบฟรีๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย และยังได้เพลิดเพลินกับการชมธรรมชาติและแมกไม้รอบด้านไปพร้อมๆ กันอีกด้วย ส่วนของหุบเขา Jigokudani นั้น บางคนถึงกับตั้งฉายาให้ว่าเป็นหุบเขานรก เพราะบริเวณหุบเขาแห่งนี้จะมีควันพวยพุ่งออกมาตลอดเวลา เพราะความร้อนจากน้ำแร่ที่อยู่ใต้ดินนั่นเอง และบริเวณในหุบเขาจะมีการทำทางเดินเป็นสะพานไม้ยาวเหยียดเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ใช้ลัดเลาะชมบ่อน้ำร้อนต่างๆ ที่อยู่ระหว่างทาง และเข้าไปชมบ่อน้ำร้อนขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านใน ซึ่งเป็นต้นน้ำสายหนึ่งของแหล่งน้ำแร่ร้อนในแถบนี้ บอกเลยว่าละแวกนี้คุณจะได้มองเห็นทิวทัศน์ที่แปลกตาและหาดูได้ไม่บ่อยนักกันเลยทีเดียว อาจจะต้องใช้กำลังขากันซักหน่อยในการเดินชม แต่บอกเลยว่าคุ้มค่าสมกับความเมื่อยแน่นอน หากคุณสนใจและอยากทำความรู้จักกับตัวเลือกที่พักในบริเวณนี้ เราขอแนะนำ โนโบริเบ็ตสึ เซกิซุอิเต, Sekisui Tei Ryokan และ โรงแรมพาร์ค มิยาบิเต ไว้ให้คุณได้ใช้ในการประกอบการพิจารณา
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.30 – 16.30 น.
ร้านอาหารหน้าตาเรียบง่ายในรูปแบบตึกแถวสองชั้น ตั้งอยู่ในตลาดปลาซัปโปโร โจไก มองเผินๆ ก็ธรรมด๊า ธรรมดา แต่ถ้าใครชอบซาชิมิละก็ ขอให้มาลอง เพราะของเค้าสดจริงอร่อยจริง เมนูที่น่าสนใจคือข้าวหน้าปลาดิบรวมที่ประกอบไปด้วยอาหารทะเลหลากหลาย ทั้งแซลมอน ทูน่า ปลาโอ ปลาหมึก กุ้งหวาน ไข่แซลมอน ไข่หอยเม่น หอยปีกนก และอื่นๆ อีกเพียบ สด ใหม่ อร่อย สมราคา และอยากให้มาลอง
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 7.00 – 15.00 น.
พิกัด: สถานี JR Soen หรือ Nijuyonken Subway แล้วเดินต่ออีก 10 นาที
ถ้าอยากพักยกจากอาหารญี่ปุ่นในสไตล์ดั้งเดิม แนะนำให้ลองมาชิมที่ร้านนี้ เพราะเค้าเสิร์ฟเมนูตะวันตกอย่างพวกเบอร์เกอร์หรือเฟรนช์ฟรายด์ แต่ที่น่าสนใจคือวัตถุดิบที่นำมาใช้ประกอบของเค้าน่ะเน้นเป็นพวกอาหารทะเลทั้งหลาย เมนูที่น่าสนใจคือเบอร์เกอร์หอยโฮตาเตะหรือหอยเชลล์ตัวหนานุ่มเต็มคำ มันฝรั่งทอดหน้ากุ้ง หรือถ้าใครอยากกินข้าวแกงกะหรี่และข้าวห่อไข่ เค้าก็มีให้บริการด้วยนะ
เปิดบริการทุกวัน 10.00 – 00.30 น.
พิกัด: ร้านนี้มี 16 สาขากระจายอยู่ทั่วฮาโกดาเตะ สะดวกสาขาไหนลองเลือกกันได้เลย
มาเมืองหนาวทั้งที ก็ต้องหาหม้อไฟที่ใช้วัตถุดิบดีๆ ของฮอกไกโดมาซดให้ร่างกายอบอุ่นกันซะหน่อย ร้านนี้ถือว่าเป็นหนึ่งร้านดังในย่านฟุราโนะเลยทีเดียว เพราะหม้อไฟน้ำซุปร้อนๆ หอมๆ จะมาพร้อมวัตถุดิบดีๆ ที่ทั้งสดและทั้งใหม่อย่างเนื้อวัว ไก่ เป็ด และอาหารทะเลต่างๆ อีกเพียบ หรือถ้าใครเป็นสายเนื้ออยากชวนให้ลองข้าวหน้าเนื้อดิบนะ เนื้อสวยๆ เสิร์ฟมาพร้อมโชยุและวาซาบิ แถมปิดท้ายด้วยเมนูหอยนางรมนึ่งสาเกอีกซักจานถ้ายังไหว รับรองสะใจแน่นอน
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.30 – 24.00 น.
พิกัด: เดิน 3 นาทีจากสถานีรถไฟ Furano
จากกรุงเทพฯ มีหลายสายการบินทั้งราคาประหยัดและฟูลเซอร์วิสเปิดให้บริการบินตรง กรุงเทพฯ - ฮอกไกโด อยู่หลายสายการบิน คุณสามารถเลือกช่วงเวลาและราคาได้ตามที่ต้องการและงบประมาณที่ถูกใจ
ฮอกไกโดเป็นภูมิภาคที่กว้างใหญ่ แต่มีการคมนาคมที่ค่อนข้างสะดวกง่ายดายและทั่วถึงด้วยรถไฟ JR รถบัส หรือแท็กซี่ ซึ่งถือเป็นวิธีการเดินทางยอดนิยมในการเดินทางตามเมืองต่างๆ ในภูมิภาคนี้ และในเมืองหลักอย่างซัปโปโร คุณยังมีรถไฟใต้ดินและรถรางให้ได้เลือกใช้ได้อีกด้วย ถือว่ามีหลายตัวเลือกให้ได้ลองใช้บริการเลยละ
ฮอกไกโดถือว่าเป็นอีกหนึ่งสวรรค์ของคนที่รักการท่องเที่ยวเลยละ เพราะสามารถเที่ยวสนุกได้ในทุกฤดูกาล และยังมีทุกอย่างให้ได้ลองกันแบบครบรส ทั้งธรรมชาติที่งดงามไม่ว่าจะเป็นภูเขา ทะเล ดอกไม้ แม่น้ำ ทะเลสาบ น้ำพุร้อน ฟาร์ม และในหน้าหนาวยังมีหิมะ ลานสกี และงานเทศกาลหิมะที่ถือว่ามีชื่อเสียงโด่งดัง ด้านอาหารการกินก็ยังเรียกได้ว่าอุดมสมบูรณ์มาก ทั้งอาหารทะเลสดใหม่ เนื้อสัตว์รสชาติดี ผักและผลไม้ชั้นเลิศ ซึ่งทำให้ได้ขนมและอาหารที่มีรสชาติอร่อยและเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนั้น ฮอกไกโดยังมีพื้นที่ที่คนรักการผจญภัยเป็นสายแอดเวนเจอร์ทั้งหลายได้ทำกิจกรรมกันอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นการนั่งบอลลูนชมวิวมุมสูงสุดเร้าใจ การพายเรือคายัคในทะเลหรือทะเลสาบ การเดินเขา สกี ขี่จักรยาน หรือแวะไปทำกิจกรรมตามฟาร์มต่างๆ คุณจึงสามารถเลือกวิธีการและกิจกรรมท่องเที่ยวที่คุณพอใจได้แบบไม่มีซ้ำ ขอแค่ให้มีเวลาทำทั้งหมดก็พอ!
จำนวนที่พักทั้งหมด | 2,745 แห่ง |
เมืองยอดนิยม | ซัปโปโรชิ, มิกาสะชิ |
โรงแรมยอดนิยม | ฮิลตัน นิเซโกะ วิลเลจ, ANA Crowne Plaza SAPPORO, โรงแรม IHG |
แลนด์มาร์คยอดนิยม | Niseko Mountain Resort Grand Hirafu, สนามบินนิวชิโตะเซะ (CTS) |