จองโรงแรมและรีสอร์ทพิจิตรง่ายๆ ใกล้วัดวาอาราม ราคาประหยัด กับ Traveloka ผู้ให้บริการจองออนไลน์แสนสะดวก มาพร้อมกับที่พักพิจิตร ส่วนลดสูงสุด 80%
พิจิตร เดิมทีชื่อจังหวัดนี้สะกดว่า พิจิตร์ ซึ่งแปลว่าเมืองที่งาม ด้วยทำเลที่ตั้งซึ่งอยู่บนพื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ มีแม่น้ำน่านและแม่น้ำยมไหลผ่านตัวจังหวัดตั้งแต่เหนือจรดใต้ นอกจากนั้นยังเต็มไปด้วยห้วย หนอง คลอง บึง และแหล่งน้ำอีกมากมาย ส่งผลให้เมืองพิจิตรเป็นเมืองที่เหมาะกับการทำเกษตรกรรมเป็นอย่างมาก นอกจากนั้น ยังทำให้พิจิตรมีประเพณีแข่งเรือยาวเป็นประเพณีเก่าแก่ประจำจังหวัดซึ่งมีชื่อเสียง
ตั้งอยู่ในเขตรอยต่อระหว่างภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 346 กิโลเมตร ถือเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่เก่าแก่ของไทย คาดว่าเมืองนี้เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยสุโขทัยยังเป็นราชธานี โดยปรากฏชื่ออยู่ในศิลาจารึกหลักที่ 1 ของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ในนามของ เมืองสระหลวง และมีสถานะเป็นหัวเมืองเอกของสุโขทัยในสมัยนั้น ต่อมา สมัยแผ่นดินอยุธยาในยุคของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ เมืองนี้ได้รับการเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็นเมือง เมืองโอฆบุรี ซึ่งแปลว่า เมืองในท้องน้ำ มีตำแหน่งเป็นหัวเมืองชั้นตรีของกรุงศรีอยุธยา เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งเมืองที่มีความสำคัญมากในสมัยนั้นเลยทีเดียว นอกจากบทบาทต่อแผ่นดินในยุคอดีต เมืองพิจิตรยังเป็นที่ประสูติของ สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 หรือ พระเจ้าเสือ พระมหากษัตริย์สมัยกรุงศรีอยุธยา และ พระโหราธิบดี บิดาของศรีปราชญ์ อีกด้วย
เดิมทีชื่อจังหวัดนี้สะกดว่า พิจิตร์ ซึ่งแปลว่าเมืองที่งาม ด้วยทำเลที่ตั้งซึ่งอยู่บนพื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ มีแม่น้ำน่านและแม่น้ำยมไหลผ่านตัวจังหวัดตั้งแต่เหนือจรดใต้ นอกจากนั้นยังเต็มไปด้วยห้วย หนอง คลอง บึง และแหล่งน้ำอีกมากมาย ส่งผลให้เมืองพิจิตรเป็นเมืองที่เหมาะกับการทำเกษตรกรรมเป็นอย่างมาก นอกจากนั้น ยังทำให้พิจิตรมีประเพณีแข่งเรือยาวเป็นประเพณีเก่าแก่ประจำจังหวัดซึ่งมีชื่อเสียง โดยมักจะจัดการแข่งขันกันในช่วงฤดูน้ำหลาก ราวต้นเดือนกันยายนของทุกปี ณ บริเวณหน้าวัดท่าหลวง อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้คนส่วนใหญ่รู้จักเมืองพิจิตร นั่นคือตำนานนิทานพื้นบ้านเรื่อง ไกรทอง ซึ่งรัชกาลที่ 2 ได้ทรงพระราชนิพนธ์เอาไว้เพื่อใช้เป็นบทละครสำหรับละครนอกในสมัยนั้น เป็นเรื่องราวกล่าวขานถึงจระเข้ใหญ่แห่งเมืองพิจิตรชื่อว่า ชาละวัน ซึ่งสันนิษฐานว่าชื่อนี้เพี้ยนมาจากคำว่า แต่ละวัน หรือ ตะละวัน ซึ่งหมายถึงจระเข้ที่ออกอาละวาดไม่เว้นแต่ละวันนั่นเอง และภายหลังจากก่อเรื่องเดือดร้อนไว้มากมาย ชาละวันก็สิ้นฤทธิ์แพ้พ่ายต่อหมอปราบจระเข้ซึ่งชื่อว่า ไกรทอง มีการสันนิษฐานว่าพระราชนิพนธ์เรื่องนี้อ้างอิงมาจากเรื่องจริงของจระเข้ใหญ่ซึ่งดุร้ายแห่งเมืองพิจิตรนั่นเอง จึงไม่ต้องแปลกใจหากคุณเดินทางไปยังเมืองพิจิตรแล้วได้พบเห็นแหล่งท่องเที่ยวมากมายซึ่งมีการอ้างอิงกับตำนานของไกรทอง อาทิ ถ้ำชาละวันกลางแม่น้ำน่านเก่า หรือ รูปปั้นพญาชาละวันในอำเภอเมืองนั่นเอง
ด้วยความที่สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อส่วนใหญ่ของพิจิตรนั้นมักจะตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง ที่พักในพิจิตรส่วนมากจึงอยู่ในเขตตัวเมืองเป็นหลัก และมีบางส่วนกระจายอยู่ตามอำเภอต่างๆ บ้างประปราย โดยที่พักส่วนใหญ่ซึ่งจะพบเห็นได้ในจังหวัดนี้จะเป็นรูปแบบของโรงแรมขนาดกลางในท้องถิ่นซึ่งมีหลากหลายสไตล์ รวมถึงที่พักในลักษณะของรีสอร์ทที่ให้บรรยากาศที่แตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่ล้วนไว้วางใจได้ในด้านของการอำนวยความสะดวกสบายและราคาที่ค่อนข้างสัมผัสได้ในความเป็นจริง โดยแต่ละแห่งจะมีรูปแบบของการบริการที่แตกต่างกันไป ซึ่งผู้เข้าพักสามารถเลือกได้ตามที่ตนเองต้องการ และหากคุณมีความสนใจอยากทำความรู้จักกับที่พักในจังหวัดพิจิตรแห่งนี้ เราขอแนะนำตัวอย่างที่พักที่มีบริการไว้ให้คุณได้ใช้เพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณา อาทิ โรส อินน์ ตะพานหิน, lanna bali KumnunTuo และ เบด ฮับ โฮเทล เป็นต้น
หากคุณกำลังมองหาที่พักในพิจิตรซึ่งตั้งอยู่ในเขตอำเภอโพทะเลซึ่งมีบรรยากาศสุดผ่อนคลาย ขอให้ลองเก็บที่นี่ไว้พิจารณา เพราะเป็นโรงแรมที่ให้อารมณ์แบบรีสอร์ท คือเป็นบ้านพักหลังเดี่ยวท่ามกลางธรรมชาติเขียวขจีของทุ่งนาและสนามหญ้ากว้าง มีพื้นที่ให้เดินเล่นสูดอากาศและยืดเส้นยืดสาย ตัวบ้านพักแต่ละหลังมีระยะห่างให้ความเป็นส่วนตัว มีระเบียงให้นั่งเล่นทุกหลัง รวมถึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน และมีร้านอาหารให้บริการในที่พักอีกด้วย
จองที่พัก >> ไรซ์ คันทรี่ วิลเลจ บูทีค โฮเท็ล
นี่คือหนึ่งที่พักในพิจิตรซึ่งให้อารมณ์แบบเรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยกลิ่นอายที่ทันสมัย บริเวณล็อบบี้ของโรงแรมตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่มีดีไซน์สวยงามและให้ความผ่อนคลาย ห้องพักตกแต่งอย่างเรียบง่ายและมีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง มีรูปแบบให้เลือกใช้บริการได้ตามความต้องการของผู้เข้าพัก พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ค่อนข้างครบครัน มีร้านอาหารและบาร์ให้บริการภายในโรงแรม
จองที่พัก >> The Nest Hotel Phichit
อีกหนึ่งโรงแรมในเขตอำเภอเมืองแห่งนี้ เป็นที่พักในพิจิตรที่เรียกได้ว่าค่อนข้างสะดวกสบาย ตกแต่งด้วยรูปแบบที่เรียบง่ายในขณะที่ซ่อนกลิ่นอายความเป็นไทยเอาไว้ได้อย่างลงตัว ห้องพักมีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางและใช้ไม้เป็นวัสดุหลักในการตกแต่ง จึงให้ความรู้สึกสบาย ผ่อนคลาย อบอุ่นและเป็นกันเอง ห้องพักทุกห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันให้ค่อนข้างครบครัน
จองที่พัก >> Pichit Plaza Hotel
รีสอร์ทนี้ตั้งอยู่ในอำเภอวชิรบารมี เป็นที่พักในพิจิตรที่นำเสนอในรูปแบบที่เรียบง่าย และให้บรรยากาศที่ค่อนข้างเป็นกันเอง ตั้งอยู่ในทำเลที่สงบเงียบและไม่พลุกพล่านวุ่นวาย จึงเหมาะสำหรับใครที่ชอบพักในสถานที่ที่เป็นส่วนตัว มีทั้งห้องพักและบ้านหลังเดี่ยวให้บริการ พร้อมที่จอดรถสะดวกสบาย ภายในห้องพักตกแต่งอย่างเรียบง่ายและเน้นพื้นที่สำหรับใช้งานเป็นหลัก มีบริการอุปกรณ์สำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน
จองที่พัก >> Maphrao Namhorm Resort
หากคุณกำลังมองหาที่พักในพิจิตรซึ่งให้ความสงบ ผ่อนคลาย ในขณะที่ไม่ห่างไกลจากสิ่งอำนวยความสะดวกในตัวเมือง ลองเก็บที่นี่ไว้พิจารณา ตัวรีสอร์ทตั้งอยู่ในพื้นที่เป็นส่วนตัวและมีรั้วรอบขอบชิด บ้านพักทุกหลังสร้างจากไม้จึงให้ความกลมกลืนไปกับธรรมชาติรอบด้าน มีพื้นที่ห่างระหว่างกันจึงให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวและไม่ค่อยวุ่นวาย ภายในห้องพักขนาดกะทัดรัดตกแต่งอย่างเรียบง่าย สะดวกสบาย และมีอุปกรณ์ใช้สอยที่จำเป็นในชีวิตประจำวันให้ครบครัน
จองที่พัก >> Ruean Vana Resort
เป็นอีกหนึ่งรีสอร์ทซึ่งตั้งอยู่ในเขตอำเภอวชิรบารมี ที่พักในพิจิตรแห่งนี้ให้อารมณ์เหมือนได้มาพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติในบ้านสวน ภายในบริเวณกว้างขวางและร่มรื่น เป็นพื้นที่สีเขียวของธรรมชาติ สนามหญ้า และต้นไม้ เหมาะสำหรับคนที่ชอบเดินเล่นยืดเส้นสายท่ามกลางอากาศดีๆ ในช่วงเช้าหรือเย็น บ้านพักเป็นแบบหลังเดี่ยวให้ความรู้สึกสงบเงียบและเป็นส่วนตัว ตกแต่งอย่างเรียบง่ายและมาพร้อมอุปกรณ์ใช้สอยในชีวิตประจำวัน
จองที่พัก >> SP Resort and Garden
สำหรับคนที่ชอบความเรียบง่ายและเป็นกันเอง นี่คือที่พักในพิจิตรที่อาจจะถูกใจคุณ รีสอร์ทแห่งนี้ตั้งอยู่ในอำเภอวชิรบารมี มีให้เลือกทั้งแบบที่เป็นห้องพักและเป็นบ้านหลังเดี่ยว ตั้งอยู่ในพื้นที่กว้าง มีบริเวณสำหรับไว้ใช้เดินเล่นยืดเส้นยืดสาย พร้อมมีที่จอดรถสะดวกสบายให้บริการ ตัวห้องพักตกแต่งอย่างเรียบง่ายเน้นการใช้ไม้เป็นวัสดุหลัก ให้ความรู้สึกเป็นกันเอง และมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้ค่อนข้างครบครัน
จองที่พัก >> Maphrao Namhorm Resort
จองที่พัก >> Orchid Place Hotel
หากคุณมีแผนจะเดินทางไปยังอำเภอวชิรบารมี นี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งที่พักในพิจิตรที่คุณต้องการ ตัวที่พักตั้งอยู่ท่ามกลางพื้นที่กว้างขวาง โปร่งสบาย บริเวณภายในรีสอร์ทมีสนามหญ้ากว้างสำหรับเดินเล่นหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง มีต้นไม้ใหญ่กระจายอยู่ทั่วบริเวณ ตัวบ้านพักให้ความรู้สึกสงบและเป็นส่วนตัว ไม่พลุกพล่านวุ่นวาย ห้องพักตกแต่งอย่างเรียบง่าย เน้นพื้นที่การใช้งาน และมีสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันให้บริการ
จองที่พัก >> SP Resort and Garden
ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าฬ่อ ในอำเภอเมือง เป็นศาลเจ้าริมแม่น้ำน่านซึ่งชาวจีนไหหลำสร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพธิดาแห่งท้องทะเลที่ทำหน้าที่คุ้มครองผู้เดินทางทางเรือ เรียกว่า จุ้ยบ้วยเนี้ยว อันแปลว่าเจ้าแม่ชายน้ำ แต่คนไทยรู้จักในนาม เจ้าแม่ทับทิม เนื่องจากเชื่อกันว่าท่านมีเครื่องประดับประจำตัวเป็นพลอยสีแดง ศาลแห่งนี้มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่าร้อยปี ตั้งแต่ประมาณ พ.ศ.2410 ว่ากันว่ามีเจ้าของอู่ต่อเรือที่อยู่ในบริเวณนี้เป็นผู้อัญเชิญองค์เจ้าแม่ทับทิมเดินทางมาจากประเทศจีน และได้ทำการบริจาคซุงไม้สักจำนวน 2 แพ เพื่อใช้ในการสร้างตัวศาล สันนิษฐานกันว่าองค์เจ้าแม่ทับทิมในศาลแห่งนี้นั้นเป็นเจ้าแม่ทับทิมองค์แรกของประเทศไทย ภายในตัวศาลยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์และโบราณวัตถุอีกหลายอย่างให้ได้กราบไหว้สักการะและเยี่ยมชมกัน อันได้แก่ องค์เจ้าพ่อกวนอู เจ้าพ่อปุ้นเถ่ากงและปุ้นเถ่าม่า โดยองค์เจ้าแม่ทับทิมและองค์เจ้าพ่อกวนอูได้ถูกอัญเชิญมาจากเกาะไหหลำ มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน นอกจากนั้นยังมีเกี้ยวโบราณสำหรับประทับองค์เจ้าแม่ที่นำมาจากประเทศจีน ซึ่งเป็นเรือนไม้แกะสลักทั้งหลังด้วยลายดอกไม้และสัตว์ต่างๆ ตามศิลปะจีน รวมถึงยังมีเครื่องหมายประจำเซียนทั้งแปดอันเป็นวัตถุล้ำค่าซึ่งทำมาโดยเฉพาะจากนครกวางเจาในยุคนั้น และระฆังโบราณที่ถูกจารึกเป็นภาษาจีน รวมทั้งโต๊ะรูปทรงโบราณที่คล้ายกับบัลลังก์ที่ใช้ในการนั่งตัดสินคดีความ ในอดีต ศาลเจ้าแห่งนี้ยังเคยถูกใช้เป็นที่สอนหนังสือในภาษาไทยและจีนให้กับเด็กๆ ในบริเวณใกล้เคียงอีกด้วย ปัจจุบันนี้ยังมีผู้คนมากมายให้ความเคารพเลื่อมใสและเดินทางมากราบไหว้สักการะ ณ ศาลเจ้าแห่งนี้อย่างไม่ขาดสาย ด้วยกิตติศัพท์ในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน จนทำให้เกิดการร่วมมือกันจัดงานสักการะที่บริเวณศาลเจ้าแห่งนี้เป็นประจำในทุกปี และถ้าคุณกำลังมองหาที่พักในบริเวณใกล้เคียงกับศาลเจ้าแห่งนี้ เราขอนำเสนอตัวอย่างที่พักดีๆ ไว้เพื่อให้คุณได้ใช้ในการพิจารณา อาทิ SP Resort and Garden, Maphrao Namhorm Resort และ Ruean Vana Resort เป็นต้น
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 – 17.00 น.
เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาราวๆ พ.ศ.2244 ตรงกับยุคของสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 หรือพระเจ้าเสือ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นมาพร้อมๆ กับวัดโพธิ์ประทับช้าง โดยมีสมุหนายกซึ่งทำหน้าที่ควบคุมไพร่พลมาเพื่อก่อสร้างวัดโพธิ์ประทับช้างเป็นผู้ค้นพบ และเห็นว่าส่วนยอดของภูเขาแห่งนี้มีลักษณะคล้ายช้างจึงเหมาะที่จะทำการสร้างวัดและที่พักไว้ด้านบน เพื่อใช้เป็นที่ตรวจตราสภาพภูมิประเทศรอบๆ ด้าน และให้ชื่อว่าวัดเขารูปช้างตามลักษณะของก้อนหินสีขาวซึ่งซ้อนกันเป็นรูปช้างคุกเข่าอยู่ด้านบน บริเวณยอดเขาแห่งนี้มีการสร้างศาสนสถาน อาทิ โบสถ์ วิหาร พระพุทธรูป รอยพระพุทธบาทจำลอง และเจดีย์ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานองค์พระธาตุไว้ที่ด้านบนในส่วนที่ดูเหมือนหัวช้างของยอดเขาแห่งนี้ จากบริเวณพื้นที่ด้านล่าง มีบันไดนาคสูงประมาณ 136 ขั้นทอดตัวสู่ลานกว้างด้านบนเขา ซึ่งมีองค์เจดีย์ประดับกระเบื้องเคลือบสีทองทั้งองค์ มีรั้วรอบองค์เชิงบันไดทางขึ้น และรูปปั้นโขลงช้างอีก 5 เชือก นอกจากกราบนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเป็นมงคลกับชีวิตแล้ว บริเวณส่วนบนของยอดเขาแห่งนี้ยังใช้เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของจังหวัดพิจิตร โดยเฉพาะบริเวณตัวเมืองของอำเภอตะพานหินได้อย่างชัดเจนเกือบจะ 360 องศาเลยทีเดียว และหากคุณกำลังมองหาที่พักในบริเวณใกล้เคียงกับวัดเขารูปช้างแห่งนี้ เราขอแนะนำ โรส อินน์ ตะพานหิน, lanna bali KumnunTuo และ The Nest Hotel Phichit ไว้เพื่อใช้เป็นตัวเลือกในการพิจารณาสำหรับคุณ
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 – 18.00 น.
ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งแรกของจังหวัดพิจิตร และยังเป็นแหล่งน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของประเทศ เดิมทีบริเวณบึงแห่งนี้เคยมีพื้นที่นับหมื่นไร่ แต่ภายหลังจากที่มีการสร้างเขื่อนสิริกิติ์ปิดกั้นแม่น้ำน่าน ทำให้พื้นที่ของบึงแห่งนี้ลดลงมาจนเหลือเนื้อที่เก็บน้ำประมาณ 5,390 ไร่ในปัจจุบัน โดยพื้นที่ในบริเวณบึงสีไฟแห่งนี้ใช้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ และยังเป็นที่อยู่อาศัยของนกนานาพันธุ์อีกด้วย นอกจากนั้น บึงแห่งนี้ยังกลายเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวพิจิตรและถือเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของเมืองนี้อีกด้วย ภายในพื้นที่ของบึงสีไฟยังมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง อาทิ สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ศาลากลางน้ำ สถานแสดงพันธุ์ปลาเฉลิมพระเกียรติ บ่อจระเข้ และรูปปั้นพญาชาละวันซึ่งถือเป็นรูปปั้นจระเข้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีความยาวถึง 38 เมตร และภายในจัดทำเป็นห้องประชุมที่ใหญ่ขนาดจุได้ 25 – 30 ที่นั่งเลยทีเดียว หากคุณกำลังต้องการทำความรู้จักกับที่พักใกล้บึงสีไฟ เรามีตัวอย่างที่พักที่น่าสนใจมานำเสนอ ได้แก่ Orchid Place Hotel, The Nest Hotel Phichit และ เบด ฮับ โฮเทล เป็นต้น
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00 – 18.00 น.
ตั้งอยู่ในอำเภอโพทะเล ริมแม่น้ำน่านเก่า เดิมชื่อว่า วัดวังตะโก โดยวัดแห่งนี้มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักกันไปทั้งประเทศ เนื่องจากเป็นวัดที่ หลวงพ่อเงิน ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่มีลูกศิษย์ลูกหาเคารพนับถือทั่วทั้งประเทศเคยจำวัดอยู่ นอกจากนั้นยังมีโบราณวัตถุที่น่าสนใจมากมายภายในวัดนี้ ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะมีผู้นำมาถวายให้กับทางวัด ไม่ว่าจะเป็น พระพิมพ์ พระพุทธรูป หรือแม้แต่เครื่องปั้นดินเผา และยังมีพิพิธภัณฑ์นครไชยบวร ซึ่งด้านในเป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อขนาดเท่าองค์จริงของหลวงพ่อเงินเอาไว้ ซึ่งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังถือเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในจังหวัดพิจิตรอีกด้วย และหากคุณกำลังมองหาที่พักใกล้กับวัดบางคลานแห่งนี้อยู่ เราขอแนะนำตัวอย่างที่พักที่น่าสนใจไว้ให้คุณได้ลองเก็บไว้พิจารณา อาทิ Orchid Place Hotel, lanna bali KumnunTuo และ Maphrao Namhorm Resort เป็นต้น
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 – 17.00 น.
มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า วัดราชดิตถาราม นับเป็นอีกหนึ่งวัดสำคัญของจังหวัดพิจิตร ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำน่านฝั่งตะวันตก เป็นวัดเก่าแก่ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่สมัย พ.ศ.2388 ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานองค์หลวงพ่อเพชร พระพุทธรูปปางมารวิชัยสมัยเชียงแสนหล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในระหว่างปี พ.ศ.1660 ถึง พ.ศ.1880 มีอายุประมาณ 882 ปี ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามมาก และมีความเชื่อกันว่าเป็นพระพุทธรูปที่ทรงพุทธานุภาพอันศักดิ์สิทธิ์องค์หนึ่งของประเทศไทย และยังนับเป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่เมืองพิจิตรมาอย่างยาวนาน วัดท่าหลวงเป็นสถานที่จัดการแข่งขันเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในช่วงต้นเดือนกันยายนของทุกปี ในวันแรม 6 ค่ำ เดือน 10 และเดิมทีจัดแข่งขันเพียงวันเดียวเท่านั้นในหนึ่งปี ประเพณีนี้เริ่มขึ้นในราวปี พ.ศ.2450 โดยในช่วงแรกมีการมอบผ้าห่มหลวงพ่อเพชรพับใส่พานให้เป็นรางวัลสำหรับเรือลำที่แข่งชนะเลิศ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าพระราชทานถ้วยรางวัลเพื่อเป็นรางวัลแด่เรือลำที่แข่งชนะ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2524 เป็นต้นมา ซึ่งทุกวันนี้มีการยืดระยะเวลาการจัดงานแข่งขันเรือยาวประเพณีให้เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ต้องการหลั่งไหลเข้ามาร่วมชมงาน จนถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งงานประเพณีที่มีความยิ่งใหญ่ระดับประเทศไปแล้วในปัจจุบัน และหากคุณกำลังมองหาที่พักน่าสนใจใกล้กับบริเวณวัดแห่งนี้ เราก็มีตัวอย่างที่พักดีๆ มานำเสนอ อาทิ The Nest Hotel Phichit, Fahluang Residence และ Orchid Place Hotel เป็นต้น
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 6.30 – 18.00 น.
ร้านอาหารขนาดกะทัดรัด ตกแต่งแบบเรียบง่ายให้อารมณ์สบายๆ อย่างเป็นกันเอง เปิดให้บริการทั้งห้องแบบติดแอร์และแบบรับลมเย็นตามธรรมชาติ ชื่อร้านก็ประกาศอยู่แล้วว่าเน้นอาหารจานปลาเป็นพระเอกหลักของร้าน กับรสชาติอร่อยแบบบ้านๆ ที่รับรองว่าน่าจะสะใจ เมนูที่น่าสนใจได้แก่ ต้มยำปลาม้า ต้มยำปลาน้ำเงิน และปลาเค้าราดเต้าเจี้ยว
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00 – 21.00 น.
เบอร์โทรศัพท์ 087 - 0778478
ร้านอาหารสบายๆ ที่ตกแต่งในสไตล์เรโทร ด้วยการนำข้าวของสิ่งละอันพันละน้อยกระจุกกระจิกมากมายในอารมณ์ของสะสมวัยเยาว์มาใช้ในการตกแต่งร้าน ให้บรรยากาศสุดสบาย เป็นได้ทั้งร้านอาหารสำหรับรองท้องในช่วงกลางวัน และยังเป็นร้านนั่งชิลล์กับเพื่อนฝูงได้ยาวๆ ในยามค่ำคืน เมนูที่น่าสนใจได้แก่ ยำสามชั้นทอดน้ำปลา เย็นตาโฟผัดแห้ง และปูม้าสะดุ้ง
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00 – 23.00 น.
เบอร์โทรศัพท์ 089 - 7078777
สำหรับคนที่มองหาร้านนั่งชิลล์สังสรรค์ในยามค่ำคืน ร้านนี้น่าสนใจ ตัวร้านสวยมาในสไตล์คลาสสิกด้วยกลิ่นอายบ้านไม้ที่มีการตกแต่งเพิ่มความโมเดิร์นเข้าไปในบางจุด ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและเรียบง่าย เน้นเสิร์ฟเมนูของว่างกินเพลิน สำหรับกินคู่กับเครื่องดื่มเย็นๆ ทั้งของไทยและของอิมพอร์ตที่มีไว้ให้บริการ เมนูที่น่าสนใจได้แก่ หมูกรอบคั่วเกลือ ลาบแซลมอน และขาหมู The Sis
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.00 – 23.30 น.
เบอร์โทรศัพท์ 083 - 6202288
สนามบินที่อยู่ใกล้กับจังหวัดพิจิตรได้แก่สนามบินพิษณุโลก คุณสามารถเดินทางด้วยเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปยังสนามบินพิษณุโลก แล้วเดินทางต่อไปด้วยรถยนต์อีกประมาณ 1 ชั่วโมง ก็จะถึงจังหวัดพิจิตร
- เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯ (ทางหลวงหมายเลข 1) แยกเข้าเส้นทางหลวงหมายเลข 32 ที่อยุธยา ถึงจังหวัดนครสวรรค์ แยกเข้าเส้นทางนครสวรรค์ - ชุมแสง - บางมูลนาก - ตะพานหิน - พิจิตร (ทางหลวงหมายเลข 1118) เข้าสู่จังหวัดพิจิตร รวมระยะทางประมาณ 345 กิโลเมตร
- เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯ (ทางหลวงหมายเลข 1) แยกเข้าเส้นทางหลวงหมายเลข 32 ที่อยุธยา ถึงอำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี แยกเข้าสู่เส้นทางตากฟ้า - เขาทราย - สากเหล็ก (ทางหลวงหมายเลข 11) และเข้าสู่จังหวัดพิจิตรที่กิ่งอำเภอสากเหล็ก (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 111) รวมระยะทางประมาณ 344 กิโลเมตร
- เส้นทางที่ 3 จากกรุงเทพฯ (ทางหลวงหมายเลข 1) แยกเข้าเส้นทางหลวงหมายเลข 32 ที่อยุธยา ถึงอำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี แยกเข้าสู่เส้นทางสายตากฟ้า - เขาทราย (ทางหลวงหมายเลข 11) แยกเข้าเส้นทางเขาทราย - ตะพานหิน (ทางหลวงหมายเลข 113) แยกเข้าเส้นทางตะพานหิน - พิจิตร (ทางหลวงหมายเลข 113) เข้าสู่จังหวัดพิจิตร ระยะทางประมาณ 338 กิโลเมตร
- เส้นทางที่ 4 จากกรุงเทพฯ (ทางหลวงหมายเลข 1) แยกเข้าเส้นทางหลวงหมายเลข 32 ที่อยุธยา ถึงจังหวัดนครสวรรค์ แยกเข้าเส้นทางนครสวรรค์ - พิษณุโลก (ทางหลวงหมายเลข 117) ถึงอำเภอสามง่าม แยกเข้าเส้นทางสามง่าม - พิจิตร (ทางหลวงหมายเลข 115) เข้าสู่จังหวัดพิจิตร รวมระยะทาง 360 กิโลเมตร
การรถไฟแห่งประเทศไทย มีรถไฟออกจากสถานีรถไฟหัวลำโพงไป - กลับ กรุงเทพฯ - พิจิตร ทุกวัน วันละหลายเที่ยว
ในตัวเมืองพิจิตรมีรถชนิดต่างๆ ให้บริการ คุณสามารถเลือกใช้บริการยานพาหนะได้หลายรูปแบบตามอัธยาศัย มีรถสองแถววิ่งบริการจากสถานีขนส่งไปยังที่ต่างๆ ในตัวเมือง คุณอาจเหมารถสองแถวไปเที่ยวได้ทั้งในเมืองและต่างอำเภอ ราคาวันละขึ้นอยู่กับระยะทางและการต่อรอง รถสามล้อเครื่อง และมอเตอร์ไซค์รับจ้าง จอดอยู่ตามจุดต่างๆ ในจังหวัด เช่น หน้าตลาดเทศบาล หน้าสถานีขนส่ง ค่าบริการมีทั้งแบบตกลงกันตามแต่ระยะทางและแบบเหมาจ่าย
เรียกได้ว่าเป็นงานใหญ่ประจำปีที่ใครๆ ก็หลั่งไหลกันไปดู กับงานประเพณีแข่งเรือยาวสุดยิ่งใหญ่ในจังหวัดพิจิตร ที่เรียกได้ว่ากลายเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของจังหวัดนี้ไปเรียบร้อยแล้ว และแม้ลีลาของแต่ละฝีพายในการแข่งเรือยาวจะเร้าใจแค่ไหน ก็ยังต้องยอมให้กับลีลาเสียงพากษ์สุดเร้าใจที่กลายเป็นซิกเนเจอร์สุดโด่งดังของการแข่งขันเรือพาย ที่หาดูหาฟังได้ยาก เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะทำได้ เชื่อเลยว่าหากคุณได้เข้าไปสัมผัสบรรยากาศสุดมันแบบนั้นจริงๆ ต้องประทับใจจนลืมไม่ลงอย่างแน่นอน
แวะกราบนมัสการพระนอนที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของประเทศไทย กับพระพุทธรูปปางไสยาสน์สีทองอร่ามที่สร้างไว้กลางแจ้ง โดยมีหลังคาสีขาวสร้างคลุมเฉพาะด้านบน ด้านหน้าเปิดโล่งทำให้มองเห็นความงดงามขององค์พระได้อย่างเต็มตา พระนอนองค์นี้สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวง รัชกาลที่ 9 ในวาระที่ทรงเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษา การได้แวะมากราบนมัสการก็ถือว่าเป็นสิริมงคลอีกอย่างที่ไม่ควรพลาด หากมีโอกาสมาเยือนเมืองพิจิตรด้วยตนเอง
ใครชอบการถ่ายรูปในบรรยากาศเรือนไม้แบบเก่าที่ทำให้เราเหมือนได้ย้อนไปในสมัยก่อน ขอแนะนำว่าควรมาเดินเล่นในย่านนี้ เดิมทีบริเวณนี้เคยเป็นย่านชุมชนค้าขายที่เคยคึกคักมาก เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางการค้าขายของคนพิจิตรในสมัยก่อนกันเลยทีเดียว แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ความเจริญก้าวหน้าก็ทำให้เกิดระบบการค้าขายแบบใหม่ๆ มากมาย จนทำให้ย่านนี้ซบเซาลงอย่างรวดเร็ว ร้านรวงส่วนใหญ่ปิดตัวไปเกือบหมดแล้ว แต่ที่ยังเหลืออยู่ก็คือกลิ่นอายความคลาสสิกของเรือนไม้สวยๆ ในยุคโบราณ กับวิถีชีวิตแบบเรียบง่ายที่ลุงป้าย่ายายในละแวกนี้ยังคงดำเนินตามวิถีสโลว์ไลฟ์กันอยู่ ใครชอบเดินเล่นในบรรยากาศชิลล์ๆ หรือชอบหามุมถ่ายรูปเก๋ๆ แบบฮิปๆ ในทำเลที่ผู้คนไม่วุ่นวาย ต้องไปเยือน!
จำนวนที่พักทั้งหมด | 8 แห่ง |
เมืองยอดนิยม | ตะพานหิน, งิ้วราย |
โรงแรมยอดนิยม | ฟ้าหลวง เรสซิเด้นซ์, Roseinn Hotel Taphanhin |
แลนด์มาร์คยอดนิยม | สนามจักรยานสราญจิตมงคลสุข, วัดหนองหวายไทยยาราม |